วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

=##บรรยากาศกองเชียร์วันสุดท้าย##=

เรานำภาพแห่งความประทับใจมาฝาก



ชมพู


ฟ้า






เขียว




ม่วง

เหลือง

ส้ม

=::กีฬาสี::ภาพพาเหรด=


กีฬาสีวันสุดท้ายแล้ว ตอนเช้านะค่ะ ก็จะมีการเดินพาเหรด เราไปเดินพาเหรดด้วยแหละ เราเดินถือโล่รางวัล



พูดเหมือนยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้วมันก็เป็นโล่กระดาษนี่แหละนะ ในขบวนผู้ที่เดินถือถ้วยรางวัลมีด้วยกัน 4 คน



คือ เรา เจแปน แจง และ มิมิ พวกเราทั้งสี่ ต้องแต่งชุดนักเรียน นั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่าการแต่งชุดไทย แต่ก็ดีน้อย



กว่าการแต่งชุดกีฬาสีนิดหนึ่ง และสิ่งที่พวกเท้งสี่เหมือนกันคือ !! ผมสั้น!! กันทั้งสี่คนเลย ดูแอ็บเด็กไม่ใช่


เล่น เราไปดูภาพขบวนพาเหรดกันดีกว่า








วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

==กีฬาสี==ภาพความสนุกกับการเต้นแอโรบิก

บรรยากาศความสนุกเกินบรรยาย ถ้าไม่ได้ดูเสียดายแย่

สีฟ้า


สีส้ม


สีม่วง

สีชมพู




สีเขียว





สีเหลือง





ภาษาไทย:เล่าขานตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง หลวงพ่อวัดเขาตะเครา

มีตำนานกล่าวว่า กาลครั้งหนึ่งมีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน บวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้งสัจจะอธิษฐานว่า “เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ แม้ตายไปแล้ว ก็จะสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ต่อไป จนกว่าจะถึงซึ่งนิพพาน” ครั้นพระอริยบุคคลทั้งห้าองค์นี้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าสถิตอยู่ในพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ มีความปรารถนาจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ให้คนทางเมืองใต้ จึงพากันแสดงฤทธิ์ปาฏิหาริย์ให้พระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาทางใต้ตามแม่น้ำสายหลักของภาคกลางทั้ง 5 สาย ชาวบ้านชาวเมืองตามริมฝั่งแม่น้ำเห็นพระพุทธรูปทั้งห้าองค์ลอยน้ำมาก็พากันเลื่อมใส จึงได้นำพระพุทธรูปเหล่านั้นขึ้นฝั่งและอาราธนาให้ขึ้นสถิตอยู่ตามวัดต่างๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชะลอองค์พระขึ้นจากแม่น้ำ โดยพระพุทธรูปองค์แรก ลอยมาตามแม่น้ำบางปะกง แล้วขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกว่า “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปองค์ที่สอง ลอยมาตามแม่น้ำนครชัยศรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” พระพุทธรูปองค์ที่สาม ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่า “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปองค์ที่สี่ ลอยมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อบ้านแหลม” และพระพุทธรูปองค์ที่ห้า ลอยมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา” ในขณะที่บางตำนานก็กล่าวไว้ว่า การที่พระพุทธรูปทั้ง 5 ลอยน้ำมานี้ ก็เพราะเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ข้าศึกได้เผาไฟเพื่อหลอมเอาทองที่หล่อจากองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านเองก็ต้องการจะรักษาพระพุทธรูปไว้ จึงเอาปูนบ้าง รักดำบ้าง ไปพอกไว้ที่องค์พระเพื่อให้ดูไม่สวยงามและปกปิดความมีค่าไว้จากข้าศึก แต่เมื่อไม่อาจปกป้องได้ไหวจึงขนย้ายพระพุทธรูปสำคัญลงแพไม้ไผ่ล่องมาตามแม่น้ำเพื่อไม่ให้ข้าศึกทำลาย ด้วยน้ำหนักขององค์พระ เมื่อวางพระลงบนแพไม้ไผ่จึงดูเหมือนพระพุทธรูปลอยมาตามน้ำ จนผู้ที่พบเห็น ถือเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่น้ำหนักมากจะสามารถจะลอยน้ำได้ พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์นี้ ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัด ที่มีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างประเทศหลั่งไหลมาเคารพสักการะมิได้ขาด เรื่องราวความเป็นมาและปาฏิหาริย์ของพระพุทธรูปวัดเขาตะเคราจังหวัดเพชรบุรีมีดังนี้
ตำนานของ “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา” แห่งแม่น้ำเพชรบุรี วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี กว่า 200 ปี มาแล้วที่พระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยองค์เล็ก ขนาดหน้าตักกว้างเพียง 21 นิ้ว ซึ่งลอยน้ำมาจากทางเหนือ (พร้อมพระพี่น้องอีก 4 องค์) ได้ขึ้นประดิษฐานอยู่ ณ วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในจำนวน 5 องค์พี่น้อง ที่มีแผ่นทองคำเปลวปิดหุ้มอยู่หนามากจนแลไม่เห็นความงามตามพุทธลักษณะเดิม ประวัติความเป็นมา ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วในประวัติของหลวงพ่อบ้านแหลม ว่า ชาวบ้านแหลมซึ่งอยู่ปากอ่าวจังหวัดเพชรบุรี ได้พากันมาจับปลาในทะเล ขณะที่ลากอวนอยู่นั้นได้ลากพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยติดอวนขึ้นมาองค์หนึ่ง ในระหว่างทางกลับ ก็ได้พบพระพุทธรูปยืน (หลวงพ่อบ้านแหลม) ลอยปริ่มๆ น้ำอยู่ไม่ไกลนัก จึงอาราธนาขึ้นบนเรืออีกลำหนึ่ง แต่เกิดอาเพศฝนตกหนัก ลมพายุพัดจัด เรือลำที่พระพุทธรูปยืนประดิษฐานอยู่นั้น ทนคลื่นลมไม่ไหว จึงเอียงวูบไป พระพุทธรูปที่อยู่บนเรือจึงเคลื่อนตกจมหายไปในแม่น้ำ ชาวบ้านแหลมพากันตกใจและเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ต่างช่วยกันดำน้ำค้นหาอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่พบ จึงตกลงว่าไม่ค้นหากันต่อไปอีก จึงนำพระพุทธรูปองค์นั่งที่เหลืออยู่บนเรืออีกลำหนึ่งไปยังถิ่นของตน และนำพระพุทธรูปองค์นั้นไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่ พ.ศ.2302 เป็นต้นมา และเรียกขานกันว่าหลวงพ่อเขาตะเครา ชื่อใหม่ของหลวงพ่อ หลวงพ่อเขาตะเครา ได้รับการเรียกขานนามใหม่คือ “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา” สาเหตุมาจากมีช่างภาพคนหนึ่งต้องการถ่ายภาพหลวงพ่อ แต่ความที่องค์หลวงพ่อมีทองปิดทับอยู่หนามากจนแลไม่เห็นพุทธลักษณะเดิม ช่างภาพคนนี้จึงไปแกะทองที่ตาหลวงพ่อออกโดยมิได้บอกล่าวและขออนุญาต หลังจากนั้นไม่กี่วันช่างภาพคนนี้ก็มีอาการหูตาบวมเป่ง จึงต้องมากราบขอขมาหลวงพ่อ อาการจึงหายไป จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไม่มีใครกล้าไปแตะต้องหลวงพ่อ จนกระทั่งทองปิดองค์ท่านทับถมกันมากขึ้นทุกวันๆ ชาวบ้านที่มานมัสการจึงเติมคำว่า “ทอง” ไปในการเรียกขาน จึงกลายมาเป็น “หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา”



ที่มาจาก http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13542

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กีฬาสีวันแรก ==

ถึงกีฬาสีแล้ว......................................







กีฬาสีปีนี้ก็คึกคักใช่เล่นเราอยู่สีชมพู สีทั้งหมดก็มีอยู่ด้วยกัน 6 สี คือ สีชมพู,สีเขียว, สีเหลือง, สีส้ม, สีฟ้า และ สีม่วง การเปิดงานก็เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น ประธานในพิธีคือท่านผ.อ.ก็ได้เปิดงาน












มีการแสดงลีลาศด้วย อยากบอกว่าน้องเก่งมาก เห็นแล้วทึ่งในความสามารถของน้องจริงๆ








กีฬาก็มันมากอันที่ไปดูเป็นอย่างแรก คือกีฬาบาสเก็ตบอล ม.ปลาย ชาย ระหว่างสีเขียวกับสีเหลือง ผลปรากฏว่าสีเหลืองเป็นฝ่ายชนะ เรามีภาพมาฝากด้วยแหละ









อันนี้เป็นรูปพี่รหัสสุดสวยของเราในงานกีฬาสีวันแรก
นี่แค่วันแรกวันต่อไปคงสนุกกว่านี้แน่


วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2551

งาน power point วันแม่




งาน power point วันแม่ของข้าพเจ้า
เพื่อนๆลองเข้าไปเปิดดูความรักของลูกคนนี้กับแม่ผู้เป็นที่รัก
แล้วถ้าเพื่อนๆอยากฟังเพลงด้วยก็โหลดที่ URL นี้ค่ะ

อย่าลืมเข้าไปชมกันนะค่ะ

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Tips!!

โลกใบนี้..........
มีมุมดีดีให้มอง
แค่มองเห็นว่า.............
คนทุกคนมีเหตุผลในการทำสิ่งต่างๆเสมอ
ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้..แต่ทุกปัญหาแก้ไขได้
สิ่งร้ายๆจะมาพร้อมกับสิ่งดีดีเสมอ
ความมืดมนในเวลากลางคืนมีแค่ 12 ชั่วโมง
หลังฝนตกหนักแล้วฟ้าจะโปร่ง
ของบางอย่างไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา
ชีวิตเป็นของเรา
ถนนบางสายไกลหน่อยแต่ก็ยังมีวันถึง
ฝันร้ายเป็นแค่ความฝัน
อุปสรรคทำให้ชีวิตมีสีสัน
ความเจ็บปวดทำให้หัวใจแข็งแกร่ง
ทุกๆอย่างมีระยะเวลาของมัน
การร้องไห้ทำให้ดวงตาใสขึ้น
ตัวเรายังไม่ได้อย่างใจเราแล้วคนอื่นจะเป็นได้อย่างไร
เมื่อมาถึงจุดที่หนักที่สุดแล้ว หลังจากนั้นทุอย่างจะผ่อนคลายลงเรื่อยๆ
มีไม่มากแต่ก็มีพอ
ไม่มีเงินแต่ยังมีแรง
ความอ้วนทำให้ใบหน้าอิ่มเอิบ
ความผอมทำให้เสื้อผ้าดูดี
ถ้าวิ่งจะถึงเร็วขึ้น
ถ้าค่อยๆเดินจะไม่เหนื่อย
โลกใบนี้มีมุมดีดีให้มอง และเรากำลังมองอยู่.................

Diary เรื่องราวของวันวานที่น่าจดจำ

พี่น้องครับพี่น้องวันนี้ข้าพเจ้าไปราชภัฏเพชรบุรีมาครับพี่น้องครับเพื่อปอบรมเชิงปฏิบัติการชีววิทยาอะนะพี่น้อง
##ชีทเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย##โอ้แม่เจ้า ตอนช่วงเช้าอะนะจะเป็นการบรรยายทำเอาเราจะหลับอยู่แล้วอะ
แต่คนข้างๆคือเจแปนอะนะบอกให้เราชีกยิ้มไว้จะได้หายง่วงแล้วเราก็ชีกยิ้มกันอะนะเพื่อข่มความง่วง แต่มันใช้ได้ผลแฮะเพื่อนๆ
ถ้าใครเรียนแล้วรู้สึกง่วงก็ลองนำไปใช้กันได้นะ ไม่ลองไม่รู้ ตอนบ่ายของการไปอบรมสนุกมากๆเลยครับพี่น้องครับ เพราะคราวนี้จะได้ลงมือปฏิบัติจริงแล้ว ดีไจ ดีจัย และก็มันมากมาก ได้ความรู้มากมายเหลือจะพรรณนา เราได้ไปทำอาหารเลี้ยงเชื้อราและแบคทีเรียด้วยสนุกมากๆ ป่านฉะนี้แบคทีเรียเต็มตัวแล้วก็ไม่รู้
**buy buy**