วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ "สวัสดีปีใหม่"


สวัสดีปีใหม่จ้า...

ส่งท้ายคนเก่าต้อนรับคนใหม่ .... ปีใหม่นี้เราก็ตั้งใจจะทำแต่สิ่งที่ดีๆๆ ละทิ้งความไม่ดีไว้เบื้องหลัง แล้วเราก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขมากมากนะค่ะ คิดอะไรก็ขอให้สมความปรารถนาทุกคนเลยนะค่ะ แล้วก็ขอให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามาในชีวิตค่ะ ปีใหม่นี้เพื่อนๆๆอยากได้อะไรกันบ้างเอ่ยยยยยย ตัวเราเองอ่า อยากเห็นอนาคตตัวเองมากๆๆว่าต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร จะทุกข์จะสุขแค่ไหน....แต่ยังไงก็แล้วแต่ ก่อนสิ่งอื่นใดทั้งหมด เราก็จะตั้งใจเรียนให้มากยิ่งขึ้นทิ้งความขี้เกียจไว้กับปีที่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเมื่อปีที่แล้วเราซนมาก พูดก็เก่งมากๆเลย แถมยังไม่ค่อยตั้งใจเรียนอีกต่างหาก ฉะนั้น ปีนี้เราจะสู้ๆๆๆ Fighting เต็มที่ และจะพูดให้น้อยลง(จริงป่ะเนี้ย) 55+ก็จะพยายามอ่ะนะ เหอะๆๆ แต่เผลอแปปเดียวก็คงใกล้สอบแล้วอ่าต้องตั้งใจอ่านหนังสือมากมากด้วยอ่า ไปแล้วนะค่ะ บายๆๆๆ แล้วจะมาอัพใหม่เน้อ

แต่ก่อนจะจากกันไปเรามีอะไรดีดีมาฝากเพื่อนด้วยแหละ


ศุภวาระมงคลผลสมัย
ครบรอบปีมีชัยไทยสุขสม
จงผูกพันแน่นเหนียวและเกลียวกลม
มีลาภผลคนนิยมทุกกาลไป


ยิ้มรับปีใหม่ในวันนี้
รอพบสิ่งดีดีในปีหน้า
เมื่อความสุขปีใหม่ใกล้เข้ามา
สิ่งดีดีใกล้มาหาขึ้นทุก


โลกมีหมุน เวียนเปลี่ยน จากจุดเดิม
มีสิ่งใหม่ เข้ามาเพิ่ม เติมสีสัน
ปีเก่าผ่าน วันวานพ้น คนละวัน
เรื่องร้ายร้าย ให้ลืมมัน เถิดคนดี


พลานามัยสมบูรณ์และพูนเพิ่ม
กิจการใดเริ่มจงยิ่งใหญ่
ให้ลูกหลานว่านเครือเอื้ออวยชัย
ต่างสุขขีปีใหม่ทั่วไทยเทอญ...


เมื่อสิ้นปีสิ่งดีดีรีบมาหา
เมื่อปีใหม่ผ่านมาสุขสมหวัง
ผ่านมานี้มีสิ่งดีดีบ้างหรือยัง
พอปีหน้าให้สมหวังดั่งตั้งใจ


บ้านเธอไม่มีปล่องควัน
แล้วจะส่งของขวัญไปทางไหน
ก็เลยต้องส่งตรงที่ใจ
รับเอาไว้ได้ไหม...ใจให้เธอ


หวังอะไรได้ดั่งที่วาดหวัง
ขอพลังจงอยู่คู่เสมอ
ให้ก้าวมั่นสิ่งใดสมใจเธอ
มีความสุขอยู่เสมอ..ทุกคืนวัน


วันพิเศษวันนี้ช่างมีค่า
เพราะหนึ่งปีผ่านมาจบที่นี่
ขอรวมทุกความรักและหวังดี
รวมเป็นพรให้ตอนนี้...สุขสมใจ

ขอขอบคุณที่มาของ กลอนปีใหม่จาก : คุณ [Z]ecret จาก dekdee.com


วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

8 ตัวอย่างภาษาอังกฤษแบบผิดๆ ที่ฮิตติดปากคนไทย

ในปัจจุบันมีคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนไทยใช้กันจนติดปากอยู่ มากมาย แต่คุณเคยรู้ไหมว่ามีบางคำที่ ฝรั่งเค้าไม่ได้ใช้อย่างที่ เราพูดกันติดปาก ผมจึงเสนอคำศัพท์สัก 8 ตัวอย่างที่คนไทยมักใช้อย่างผิดๆพร้อมทั้งคำที่ถูกต้องซึ่งคุณควรนำไปใช้เวลาคุยกับฝรั่ง เริ่มเลยแล้วกันค่ะ
1. อินเทรนด์ (in trend) คำนี้อินเทรนด์มากๆ เอ๊ย...ฮิตมากๆ ในปัจจุบัน สามารถได้ยินตามรายการวิทยุหรื อโทรทัศน์ทั่วไป เพราะใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง เช่น เด็กสมัยนี้ถ้าจะให้อินเทรนด์ต้องตามแฟชั่นเกาหลี ซึ่งบางทีเวลาคุณต้องการพูดว่า "มันทันสมัย" คุณอาจจะติดปากว่า "It is in trend." คำว่า "ทันสมัย" ฝรั่งเค้าไม่ใช้คำว่า "in trend" อย่างคนไทยหรอกครับ เค้าจะใช้คำว่า "trendy" หรือ "fashionable" ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ที่คุ ณสามารถวางไว้หน้าคำนามที่ต้ องการขยาย เช่น a trendy haircut ทรงผมที่ทันสมัย, a fashionable restaurant ร้านอาหารที่ทันสมัย หรือจะไว้หลัง verb to be เช่น It is trendy. หรือ It is fashionable. ก็ได้
2. เว่อร์ (over) เช่น ใยคนนั้นทำอะไรเว่อร์ๆ She is over. ไม่มีความหมายแต่อย่างใดในภาษาอังกฤษ ฝรั่งที่ได้ยินคุณพูดเช่นนี้ คงมึนตึบ พร้อมทำสีหน้างงว่ามันหมายถึงอะไรเหรอ? พูดถึงคำนี้ คนไทยน่าจะหมายถึงการพูดเกินจริงหรือทำเกินจริง ซึ่งถ้าพูดเกินจริง ควรจะใช้คำศัพท์ที่ว่า "exaggerate" เป็นคำกิริยา อ่านว่า เอก-แซ้ก-เจ่อ-เรท เช่น "He said you walked 30 miles." เค้าบอกว่าคุณเดินตั้ง 30 ไมล์ "No - he's exaggerating. It was only about 15." ไม่หรอก เค้าพูดเว่อร์ (เกินจริง) มันก็แค่ 15 ไมล์เอง ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า เธอพูดเว่อร์น่ะ ก็บอกว่า You're exaggerating. หรือจะบอกเค้าว่า อย่าพูดเว่อร์ๆ น่ะ อาจใช้ว่า Don't exaggerate. ส่วนอาการเว่อร์อีกแบบคื อการทำเกินจริง เราจะใช้คำกิริยาที่ว่า "overact" เช่น You're overacting. เธอทำเว่อร์เกิน (แสดงอารมณ์เกินจริง)
3. ดูหนัง soundtrack เวลาคุณจะบอกใครว่า ฉันต้องการดูหนังฝรั่งที่พากย์ ภาษาอังกฤษ อย่าพูดว่า "I want to watch a soundtrack film." แต่ควรจะใช้ว่า "I want to watch an English film." เพราะความหมายของคำว่า "soundtrack" คือ ดนตรีที่อยู่ในภาพยนตร์ ต่างหากล่ะครับ ถ้าเราจะพูดถึงหนังฝรั่งที่ พากย์เสียงภาษาไทย เราต้องบอกว่า "I want to watch an English film that is dubbed into Thai." เพราะคำกิริยาว่า "dub" คือพากย์เสียงจากต้นแบบในหนั งหรือรายการโทรทัศน์ไปเป็ นภาษาอื่น ส่วนหนังที่มีคำบรรยายใต้ ภาพเราเรียกว่า "a subtitled film" ซึ่งคำบรรยายที่อยู่ใต้ภาพ เราเรียกว่า "subtitles" (ต้องมี s ต่อท้ายเสมอนะครับ) เช่น a French film with English subtitles หนังฝรั่งเศสที่มีคำบรรยายใต้ ภาพเป็นภาษาอังกฤษ หนังบางเรื่องจะมีคำบรรยายใต้ ภาพเป็นภาษาเดียวกับที่นั กแสดงพูด เรามีศัพท์เรียกเฉพาะว่า "closed-captioned films/videos/television programs" หรือ อาจเขียนย่อๆ ว่า "CC" เช่น You should watch a closed-captioned film to improve your English. คุณควรจะดูหนังฝรั่งที่มี คำบรรยายภาษาอังกฤษเพื่อพั ฒนาภาษาอังกฤษของคุณ
4. นักศึกษาปี 1 คนไทยมักเรียกว่า "freshy" ซึ่งฝรั่งไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะไม่มีการบัญญัติศัพท์คำนี้ ในภาษาอังกฤษ เค้าจะใช้คำว่า "fresher" หรือ "freshman" เช่น He is a fresher. หรือ He is a freshman. หรือ He is a first-year student. เขาเป็นนักศึกษาปี 1 ส่วนปีอื่นๆ คนไทยเรียกถูกแล้วครับ คือ ปี 2 เราเรียก a sophomore, ปี 3 เรียกว่า a junior และ ปี 4 เรียกว่า a senior

5. อัดหรือบันทึก คนไทยมักพูดทับศัพท์ว่า เร็คคอร์ด (record) คำๆ นี้สามารถเป็นได้ทั้ งคำนามและคำกิริยา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่ง stress กล่าวคือ ถ้าจะใช้เป็นคำนามที่แปลว่า แผ่นเสียงหรือสถิติ ให้ขึ้นเสียงสูงที่พยางค์แรก คือ "เร็ค-คอร์ด" เช่น He wants to buy a record. เขาต้องการซื้อแผ่นเสียง, I broke my own record. ฉันทำลายสถิติของฉันเอง แต่ถ้าคุณจะหมายถึงคำกิริยาที่ แปลว่า อัดหรือบันทึก ต้อง stress พยางค์หลัง ซึ่งจะอ่านว่า "รี-คอร์ด" เช่น I'll record the film and we can all watch it later. ฉันจะอัดหนัง เราจะได้เก็บไว้ดูทีหลังได้ ส่วนเครื่องบันทึก เราเรียกว่า "recorder" อ่านว่า รี-คอร์-เดอร์
6. ต่างคนต่างจ่าย เรามักใช้ American share รับรองว่าฝรั่ง(ต่อให้เป็ นชาวอเมริกันด้วยครับ) ได้ยินแล้ว งงแน่นอน ถ้าคุณจะหมายถึงต่างคนต่างจ่ ายให้ใช้ว่า "Let's go Dutch." หรือ "Go Dutch (with somebody)." อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็ นธรรมเนียมของชาวดัตช์หรือเปล่ า? ที่ต่างคนต่างจ่ายเลยมีสำนวนอย่ างนี้ หรือคุณอาจจะบอกตรงๆ เลยว่า "You pay for yourself." คือเป็นอันรู้กันว่าต่างคนต่ างจ่าย แต่ถ้าคุณต้องการเป็นเจ้ามือ( ไม่ใช่เล่นไพ่นะครับ)เลี้ยงมื้ อนี้เอง คุณควรพูดว่า "It's my treat this time." หรือ "My treat." หรือ "It's on me." หรือ "All is on me." หรือ "I'll pay for you this time." ทั้งหมดแปลว่า มื้อนี้ฉันจ่ายเอง ส่วนถ้าจะบอกเพื่อนว่า คราวหน้าแกค่อยเลี้ยงฉันคืน ให้บอกว่า "It's your treat next time."
7. ขอฉันแจม (jam) ด้วยคน ในกรณีนี้คำว่า "แจม" น่าจะหมายถึง "ร่วมด้วย" เช่น We are going to eat outside. Do you want to jam? เรากำลังจะออกไปกินข้าวข้างนอก เธอจะไปด้วยมั้ย? ในภาษาอังกฤษไม่ใช้คำว่า jam ในกรณีแบบนี้ ซึ่งควรจะใช้ว่า "Do you want to join us?", "Do you want to come with us?" หรือ "Do you want to come along?" จะดีกว่าครับ
8. เขามีแบ็ค (back) ดี "He has a good back." ฝรั่งคงงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับข้ างหลังของเค้า เพราะ back แปลว่า หลัง (อวัยวะ) แต่คุณกำลังจะพูดถึงมีคนคอยสนั บสนุน ซึ่งต้องใช้ "a backup" ซึ่งหมายถึง คนหรือสิ่งของที่ช่วยสนับสนุน ช่วยเหลือ เกื้อกูล เป็นกำลัง
เครดิต : teenee.com

วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ข้อสอบ Online

ข้อสอบ Online
ชุดที่ 20

27. Interleaving คือว่าอะไร . การแทรกสลับ ข. ช่วงเวลารอ ค. ช่วงเวลาเข้าถึง ง. หน่วยความจำแคช
คำอธิบาย
Interleaving คือ ใช้ไอซีเอทูดี จำนวน 2 ตัวต่อขนานกัน และออกแบบวงจรควบคุมในการแปลงสัญญาณของ เอทูดีให้สลับกันทำงาน
ที่มา http://202.28.17.1/projects/eng/IET/prj00004.html
-------------------------------------------------------------------------------

30. read-only file attribute หมายความว่าอย่างไร?ก. เข้าถึงได้ซึ่งเป็นแฟ้มปกติข. แฟ้มของระบบค. ใช้ Dir ไม่เห็นเพราะซ่อนอยู่ ง. อ่านเท่านั้น แก้ไขไม่ได้
คำอธิบาย
Read-only คือไฟล์หรือโฟล์เดอร์ที่สามารถอ่านได้อย่างเดียว จะเขียนหรือลบ

ที่มา http://com-th.net/windows/?file
-------------------------------------------------------------------------------

31. Archive file attribute หมายความว่าอย่างไร?ก. เข้าถึงได้ซึ่งเป็นแฟ้มปกติ ข. แฟ้มของระบบค. ใช้ Dir ไม่เห็นเพราะซ่อนอยู่ง. อ่านเท่านั้น แก้ไขไม่ได้
คำอธิบาย
ลักษณะของไฟล์ (File Attribute) ในระบบของ MS-DOS มีลักษณะของไฟล์ 4 ประเภท
- Archive File เป็นแฟ้มข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถอ่าน แก้ไข ลบ หรือเปลี่ยนแปลงได้
- Read Only File เป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านข้อมูลออกมาใช้ได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถลบ แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้
- Hidden File เป็นแฟ้มข้อมูลที่ซ่อนอยู่ ไม่สามารถเรียกดูได้ด้วยคำสั่ง DIR ธรรมดา ต้องค้นหาด้วยคำสั่ง DIR/A:H
- System File เป็นแฟ้มข้อมูลที่ใช้สำหรับการ บูท เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบด้วยไฟล์หลัก 3 ไฟล์
ที่มา http://203.146.213.178/childweb/com&os/frame6.htm
-------------------------------------------------------------------------------

35. แผ่น CD มีความจุเท่าไร?ก. 500 Mb ข. 600 Mbค. 700 Mbง. 1 Gb
คำอธิบาย
ซีดีรอม (CD ROM ย่อมาจาก Compact disc Read Only Memory) เป็นสื่อบันทึกข้อมูลชนิดหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage Media) ลักษณะเป็นแผ่นจานกลมคล้ายแผ่นเสียงหรือแผ่นคอมแพคดิสก์สำหรับฟังเพลง ข้อดีคือ เก็บข้อมูลได้ปริมาณมากกว่าดิสก์เก็ต ซีดีรอม 1 แผ่นสามารถเก็บข้อมูลเทียบเท่ากับดิสก์เก็ตความจุ 1.44 MB จำนวน 600 แผ่น หรือเท่ากับฮาร์ดดิสก์ขนาดความจุ 600 MB ในขณะที่ราคาของซีดีรอมถูกกว่าฮาร์ดดิสก์ที่มีความจุเท่ากัน จากข้อดีดังกล่าวจึงมีผู้ผลิตซอฟต์แวร์ประเภทเกมส์และโปรแกรมบรรจุในซีดีรอมมากขึ้น
ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=116020
-------------------------------------------------------------------------------

39. การตรวจสอบแฟ้ม และการตรวจสอบกายภาพของดิสก์ คืออะไร ก. Scan Diskข. DriveSpaceค. Defragmenterง. Drive Scan
คำอธิบาย
Scandisk ทำหน้าที่ ตรวจสอบและซ่อมแซมดิสก์ โดยทำการตรวจสอบแฟ้มและ โฟลเดอร์ที่อยู่ในฮาร์ดดิสก์ว่า มีข้อผิดพลาดหรือไม่ แล้วจึงตรวจสอบพื้นผิวธรรมชาติ
ที่มา http://robil4.8m.com/answer.html
-------------------------------------------------------------------------------

40. การเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลด้วยการบีบอัดจะทำได้โดย อะไรก. Drive Scanข. Defrag menter ค. DriveSpaceง. Scan Disk
คำอธิบาย
DriveSpace ทำหน้าที่ เพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลด้วยการบีบอัด โปรแกรมนี้สามารถ เพิ่มช่องว่างในดิสก์สำหรับเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดดิสก์ หรือ Floppy disk แต่การจัดการจะทำพื้นที่ยังว่างอยู่

ที่มา http://robil4.8m.com/answer.html
-------------------------------------------------------------------------------

43. Protocal คืออะไรก. คำจำกัดความของบัส ข. ภาษากลางที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตค. เทคนิคที่ใช้ในอินเตอร์เน็ตง. วิธีการทำเทคนิคในอินเตอร์เน็ต
คำอธิบาย
รู้แค่ว่า Protocal เปรียบเสมือนภาษาที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสารกันได้

ที่มา http://www.bcoms.net/webboard/detail.asp?id=2368
-------------------------------------------------------------------------------

44. Shell คืออะไรก. เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานในระดับล่าง ข. เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้กับส่วนของ เคอร์เนล ค. เป็นส่วนของตัวเครื่องและอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานของระบบง. เป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของระดับสูงทั้งหมดที่เป็นฮาร์ดแวร์
คำอธิบาย
ส่วนประกอบของระบบยูนิกส์มี 4 ส่วน 1. ฮาร์ดแวร์ (Hardware) เป็นส่วนของตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่รองรับการทำงานของระบบ 2. เคอร์เนลหรือแก่น (Kernel) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานในระดับล่างคือส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ทั้งหมดรวมถึงการจัดสรรการใช้ทรัพยากรร่วมกัน 3.เชลล์ (Shell) เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้กับส่วนของเคอร์เนล โดยเชลล์จะทำหน้าที่ในการรับคำสั่งจากผู้ใช้ แล้วทำการตีความหมายเพื่อส่งต่อให้กับส่วนอื่น 4. ยูทิลิตี้ (Utilities) เป็นส่วนของโปรแกรมและเครื่องมือในการทำงานบนระบบ
ที่มา http://www.ziggamza.net/webboard/index.php?topic=34266.0;wap2
-------------------------------------------------------------------------------

47. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของระบบแฟ้ม ก. ระบบตำแหน่งแฟ้ม ข. วิธีการเข้าถึงค. ระบบรายนามง. ระบบป่าลักษณะแฟ้ม
คำอธิบาย
องค์ประกอบของระบบแฟ้ม
สามารถแยกประเภทออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อควบคุมและจัดการงานต่างๆ ดังนี้
1. วิธีการเข้าถึง (access method)
2.ระบบรายนาม (Directory system
3.ระบบบ่งลักษณะของแฟ้ม (File description system)
ที่มา http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/os1/page6.html
-------------------------------------------------------------------------------

48. กลุ่มของเขตที่สัมพันธ์กันเรียกว่า ก. ระเบียนข. แฟ้มค. เขตง. บิต
คำอธิบาย
ระเบียน (Record) คือกลุ่มของเขตที่สัมพันธ์กัน เช่นระเบียนของนักเรียนแต่ละคนอาจประกอบด้วย เขตสำหรับรหัสประจำตัว ชื่อและสกุล ที่อยู่ เลขหมายโทรศัพท์ แต้มเฉลี่ยสะสม สาขาวิชาเอก และอื่นๆ กุญแจระเบียน (record key) คือเขตที่แยกระเบียนต่างๆ จากกัน เช่น ระเบียนของนักเรียนจะใช้รหัสประจำตัวเป็นกุญแจระเบียน
ที่มา http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/os1/page6.html
-------------------------------------------------------------------------------

53. คำสั่ง DEFRAG เป็นคำสั่งใช้ทำอะไร ก. ทำการจัดเรียงข้อมูลในแฟ้มใหม่ ให้แฟ้มเก็บข้อมูลไม่กระจายในดิสก์ข. ตรวจสอบโครงสร้างค. ปรับปรุงลักษณะของแฟ้มง. ล้างคลัสเตอร์
คำอธิบาย
การใช้คำสั่ง Defrag
C:\DOS> Defrag
การเลือกการวิธีการเรียงลำดับข้อมูล สามารถเลือกได้ดังนี้
- เลือกเรียงลำดับข้อมูลทั้งหมด (Full Optimizing)
หมายความว่า ให้เรียงลำดับข้อมูลพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ทั้งส่วนที่มีข้อมูลและส่วนที่ว่าง วิธีนี้ทำให้การเรียงลำดับข้อมูลมีระเบียบมากที่สุด และการเข้าถึงข้อมูลเร็วกว่า แต่ใช้เวลานานที่สุด
- เลือกจัดระเบียบเฉพาะคลัสเตอร์ของฮาร์ดดิสก์ที่มีแฟ้มข้อมูล (File Only)
ให้เรียงลำดับเฉพาะคลัสเตอร์ที่มีข้อมูลเท่านั้น โดยไม่สนใจคลัสเตอร์ที่มีที่ว่าง เหมาะสำหรับฮาร์ดดิสก์ที่มีปริมาณพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าปริมาณที่ว่าง
- เลือกจัดระเบียบเฉพาะคลัสเตอร์ของฮาร์ดดิสก์ที่ว่าง (Space Only)
ให้จัดเรียงเฉพาะคลัสเตอร์ที่ว่าง เหมาะสำหรับฮาร์ดดิสก์ที่มีปริมาณพื้นที่ว่างมากกว่าปริมาณพื้นที่เก็บข้อมูล
- เลือกจัดระเบียบเฉพาะคลัสเตอร์ของข้อมูลที่ยังไม่ได้เรียงลำดับ
ให้จัดเรียงเฉพาะคลัสเตอร์ที่ยังไม่ได้จัดระเบียบ จะใช้เวลาจัดเรียงข้อมูลน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพของการใช้งานจะต่ำที่สุด
ที่มา http://www.tws.ac.th/thoenwit/Library/ruen%20computer/www.ruencom.com/hardware/storage/pccare08.htm
-------------------------------------------------------------------------------

56. ข้อใดเป็นหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มก. SRAMข. DRAM ค. RAM ง. ROM
คำอธิบาย
RAM (Random Access Memory) คือหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม เป็น หน่วยความจำ ชั่วคราว ซึ่งข้อมูลที่เก็บจะหายเมื่อปิดไฟหรือปิดเครื่อง โดย RAM แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ DRAM และ SRAM
ที่มา http://www.angelfire.com/rnb/keng078/summery1.html

-------------------------------------------------------------------------------

58. เซลล์สคริปต์ คืออะไรก. การจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธิผล ข. ชุดของคำสั่งเซลล์ ที่มีความสมบรูณ์พร้อมค. ส่วนเชื่อมโยงระหว่างเครื่อง และผู้ใช้เครื่องง. เอื้ออำนวยการพัฒนา และการใช้โปรแกรมต่าง ๆ
คำอธิบาย
เซลล์ คือ ตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับตัวเคอร์เนล ทำหน้าที่รับคำสั่งจากผู้ใช้ แล้วนำไปแปลเป็นภาษาที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจเราเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า Command interpreter แต่ถ้ามีการนำ เซลล์หลาย ๆ ตัวมาเขียนรวมกัน (คล้าย ๆ กับ batch file ในระบบปฏิบัติการ DOS) เราจะเรียกว่า เซลล์สคริปต์
ที่มา http://rattana555.blogspot.com/2008/10/unix.html

-------------------------------------------------------------------------------

59. เขต (field) คืออะไรก. ชุดของคำสั่งเซลล์ ที่มีความสมบรูณ์พร้อม ข. สายอักขระที่สัมพันธ์กันค. ลดความแปรปรวน ในเวลาตอบสนองง. เพิ่มปริมาณการบริการ ต่อหน่วยเวลา
คำอธิบาย
เขตข้อมูล (Field) คือ หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำตัวอักขระหลายๆตัวมารวมกัน เป็นคำที่มีความหมาย เช่น รหัสนักศึกษา ชื่อนักศึกษา นามสกุล ที่อยู่ คณะ และสาขาวิชา เป็นต้น
ที่มา http://www.tcteach.com/NewDBMS/db02.htm
-------------------------------------------------------------------------------

63. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของ CBIS (computer-based information system)ก. Telecommunications
ข. Data ค. Procedureง. Hardware
คำอธิบาย
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ใช้คอมพิวเตอร์ (Computer-based information systems CBIS) มีองค์ประกอบที่สำคัญ 6 ส่วนคือ
- ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ได้แก่ อุปกรณ์ที่ช่วยในการป้อนข้อมูล ประมวลจัดเก็บ และ ผลิต เอาท์พุทออกมาในระบบสารสนเทศ
- ซอฟต์แวร์ (Software) ได้แก่ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน
- ฐานข้อมูล (Database) คือ การจัดระบบของแฟ้มข้อมูล ซึ่งเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน
- เครือข่าย (Network) คือ การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และช่วยการติดต่อสื่อสาร
- กระบวนการ (Procedure) ได้แก่ นโยบาย กลยุทธ์ วิธีการ และกฎระเบียบต่างๆ ในการใช้ระบบสารสนเทศ
- คน (People) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบสารสนเทศ ซึ่งได้แก่ บุคคลที่เกี่ยวข้องในระบบสารสนเทศ เช่น ผู้ออกแบบ ผู้พัฒนาระบบ ผู้ดูแลระบบ และผู้ใช้ระบบ
ที่มา http://elearning.northcm.ac.th/it/lesson1-1.asp
-------------------------------------------------------------------------------

64. PC หมายถึงคอมพิวเตอร์ประเภทใด
ก. Minicomputerข. Notebook ค. Microcomputer ง. Pocket PC
คำอธิบาย
PC มาจากคำว่า Personal Computer หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ ไมโครคอมพิวเตอร์ ในที่นี้จะให้ความหมายเดียวกันกับเครื่อง IBM PC แบบ XT ที่ใช้ CPU เบอร์ 8088 และแบบ AT หรือเครื่องที่มี CPU ตั้งแต่ 80286.8038680486 ตลอดจน 80586 หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ Pentium ซึ่งเราสามารถสังเกตได้จากเบอร์ของ CPU ตัวกลางว่า ถ้ามีเลขมากCPU ตัวนั้นก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามลำดับ 80..86
ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=choresongmin&month=02-2008&date=07&group=2&gblog=17
-------------------------------------------------------------------------------

66. ส่วนประกอบใดที่ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงมากในปัจจุบัน
ก. Vacuum Tubeข. Transistorค. LSI ง. VLSI
คำอธิบาย
ความหมายย่อมาจาก Very large scale integration (แปลว่า วงจรรวมความจุสูงมาก) หมายถึงการสร้างชิป (chip) โดยสามารถนำประตู (gate) มารวมกันได้ถึง 100,000 ประตูหรือมากกว่านั้น แล้วนำมาใช้เป็นตัวประมวลผล ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงได้มาก ในปัจจุบัน มีการสร้างชิปที่มีประตูมากยิ่งไป กว่านั้น เรียกว่า ULSI ( ultra large scale integraton หรือวงจรรวมความจุสูงยิ่ง)
ที่มา http://202.29.52.57/~48042380190/VLSI.doc
-------------------------------------------------------------------------------

70. โปรแกรม CAD นำมาใช้ประโยชน์ในด้านใด
ก. ด้านธุรกิจข. ด้านการแพทย์ ค. ด้านอุตสาหกรรมการผลิต ง. การออกแบบ
คำอธิบาย
คอมพิวเตอร์ช่วยงานอุตสาหกรรม (CAD)
CAD ย่อมาจาก Computer Aided Design ซึ่งแปลตามศัพท์ได้ว่า การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ
แต่หลายท่านอาจเคยพบคำว่า CADD ซึ่งย่อมาจาก Computer Aided Design and Drafting คือ การใช้
คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบและเขียนแบบ และเกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรม คือ
- พัฒนาแบบจำลองชิ้นส่วนจากแบบที่ได้รับ
- ประเมินการแก้ไขข้อมูล CAD ของชิ้นส่วนที่ออกแบบบนระบบ CAD เพื่อให้ยอมรับได้ในการผลิต
- เปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนที่ออกแบบเพื่อให้สามารถผลิตได้ สิ่งนี้อาจรวมถึงการเพิ่มมุมสอบ (Draft angle)
หรือพัฒนาแบบจำลองของชิ้นส่วนที่แตกต่างกันออกไป สำหรับขั้นตอนที่แตกต่างกันในกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
- ออกแบบอุปกรณ์จับยึด โพรงแบบ (Model cavity) ฐานแม่พิมพ์ (Model base) หรือ เครื่องมืออื่นๆ
ที่มา http://autocadscale.igetweb.com/index.php?mo=3&art=182355

-------------------------------------------------------------------------------

76. Language Translator หมายถึงสิ่งใด
ก. ภาษาที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ ข. โปรแกรมแปลภาษาเครื่อง ค. โปรแกรมแปลภาษาไทย-อังกฤษง. ผิดหมดทุกข้อ
คำอธิบาย
Language translation programหมายถึง: โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับแปลข้อความหรือคำสั่ง ที่เขียนในภาษาหนึ่งไปสู่อีกภาษาหนึ่ง ความหมายของ language translation program มีความหมายถึง การแปลภาษาระดับสูงภาษาหนึ่งเป็นภาษาระดับสูงอีกภาษาหนึ่ง

ที่มา http://emo-yumi.blogspot.com/2008/09/l.html

-------------------------------------------------------------------------------

78. Interpreter คืออะไร
ก. โปรแกรมแปลภาษาทีละคำสั่ง ข. โปรแกรมแปลภาษาโดยรวมค. การแทรกสลับง. การทำงานคอมพิวเตอร์พร้อมกันหลาย ๆ โปรแกรม
คำอธิบาย
Interpreter คือ ภาษาระดับสูงซึ่งใกล้เคียงกับภาษาของมนุษย์ โดยจะฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำ และทำหน้าที่อ่านคำสั่งจากโปรแกรมขึ้นมาทีละคำสั่งแล้วปฏิบัติตามคำสั่งนั้นๆ ตัวอย่างของ interpreter ที่รู้จักกันดีคือ ภาษา BASIC ข้อเสียของ interpreter คือ ทำงานได้ช้า เนื่องจากต้องแปลคำสั่งทีละคำสั่ง
ที่มา
http://www.school.net.th/library/webcontest2003/100team/dlnes137/am/Microcontroller.html
-------------------------------------------------------------------------------


วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

มีความสุขให้ได้กับปัจจุบัน


มีความสุขให้ได้กับปัจจุบัน
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องร้องไห้คร่ำครวญ...
อยู่กับอดีตที่ผ่านไป
เพราะอย่างไรก็ไม่อาจแก้ไขได้ ทำอะไรไม่ได้


ไม่ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นจะผิดพลาดมากน้อยแค่ไหน
เราก็ไม่มีโอกาสกลับไปเพื่อแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
สิ่งที่ทำได้ก็คือเอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียน
แล้วอย่ากลับไปทำผิดพลาดอย่างนั้นอีก
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียดาย...
กับอะไรบางอย่างที่เราได้สูญเสียไปแล้ว
เพราะต่อให้เป็นสิ่งที่ดี ที่สวยงามแค่ไหน
หรือรักมากอย่างไร
ถ้าได้สูญเสียไปแล้วก็ไม่มีทางได้กลับคืน
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปกังวัลใจกับอนาคต...
สิ่งที่เราคิดว่าจะเกิด มันอาจจะไม่เกิดก็ได้
สิ่งที่เราคิดว่าใช่ แท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ใช่
หากจะมีอะไรทำให้ผิดหวังได้
ก็ให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้
ไม่ต้องรีบร้อนเสียใจไปล่วงหน้า
อยู่ตรงนี้กับเวลาตรงหน้านี้ดีกว่า
มีความสุขให้ได้กับปัจจุบัน
และความคิดดีๆต่างๆจะเกิด
พลังในตัวตนจะเกิด และในที่สุดแล้ว
ความสุขก็จะเกิด
"แก่นแท้ของชีวิต...
ไม่ใช่อดีตเคยเป็นอย่างไร
อนาคตจะเป็นอย่างไร
แต่คือปัจจุบันมีความสุขไหมต่างหาก"

ที่มา..http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=122&post_id=1291939



Diary:วันวานที่น่าจดจำ "วันหยุดสุดสบาย "




สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน merry chirstmas and happy new year naka kor hai me quamsuk mak2 naka อ่าจ้า วันนี้วันหยุดวันแรกของสัปดาห์ค่า ซึ่งเราจะหยุดกันอีก 8 วัน ถ้ารวมวันนี้ด้วยก็ 9 วันค่า วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่า แต่วันนี้ก็แปลกๆดีค่าอยู่ๆๆก็ตื่นมาตอนตี 3 -- 55+ ไม่รู้ว่าจะตื่นมาทำไมเหมือนกัน เลยมานั่งอ่านหนังสือค่า ก็อ่านเรื่องการเป็นหมอค่า ซึ่งทำให้ได้ข้อคิดมากมาย ซึ่งตัวเองก็มีความฝันมาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะว่าอยากเป็นหมอ แล้วอยากเป็นหมอรักษาคนแก่ด้วย ไม่รู้ทามมาย สงสัยจะดูวงเวียนชีวิตมากเกินไป แต่ดูแล้วก็รู้สึกว่าคนสมัยนี้ก็ใจร้ายจัง ><

และแล้ววันนี้เราก็จะเริ่มทำตามฝันของตัวเองแล้ว 55+ เป็นอะไรไปเนี้ย วันนี้เรานั่งกินทั้งวัน สงสัยนำหนักคงจะขึ้นอีกหลายโลเลยทีเดียวชั้น ทามมายควบคุมตัวเองไม่ได้นะเรื่องการกินเนี้ย 55+

วันนี้เราพอแค่นี้ก่อนนะ บบายๆๆ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551

อยากบอกให้ทั้งโลกได้รับรู้

อยากบอกว่าชอบฟอร์เวิร์ดเมล์นี้มากค่ะ และอยากให้เพื่อนๆลองอ่านดูคิดว่าผู้ชายแบบนี้มีด้วยหรอ หายากมาก อยากเจอผู้ชายที่ดีๆแบบนี้บ้างอ่ะลองอ่านดูนะคะแล้วจะคิดเหมือนเรารึเปล่า
ผมในฐานะผู้ชายไทยคนหนึ่งที่รักภรรยามากๆ อยากจะเล่าเรื่องตัวเองกับภรรยาให้ฟังบ้างครับ ภรรยาผมตั้งแต่คบมา 12 ปีนั้น ไม่เคย:
1 ไม่ทำงานบ้านใดๆเลย ไม่ชอบและไม่ทำ มีบ้างนานๆครั้ง นับครั้งได้
2 ไม่ทำอาหารให้ทานเลย
3 ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ในบ้าน ผมรักหมามาก แต่ เมียไม่ให้เลี้ยงก็ไม่เลี้ยง (วุ้ย) เมียนะ เลือกหมา เอ้ย เมียอยู่แล้ว
4 ไม่เคยพูดคำหวานหรือ ให้การด์ในวันสำคัญ ผมต่างหาก ชอบ surprise เค้าทุกครั้ง (มีบ้างที่เค้าให้การด์คือ ผมทวง!)
5 รายได้ผม เดือนเป็นแสนๆ เค้าเก็บบริหารในบ้านหมด ผมได้ใช้อาทิตย์ละ 1500 ครับ น้อยกว่าเด็กจบใหม่อีก
6 ขี้บ่นมากๆๆ บ่นทุกเรื่องที่บ่นได้
7 ไม่ชอบแต่งตัว ไม่เคยแต่งหน้าไปทำงานในชีวิต
8 ไม่ค่อยเปิดมือถือ จนเพื่อนเค้ารำคาญกันไปหมดแล้ว
9 ไม่ชอบเดินห้าง ไม่ชอบของทันสมัย hi-tech ซึ่งตรงข้ามกับผม

แต่....ผมรักเธอมากยิ่งกว่าชีวิตผม ผมตายแทนเมียได้ทุกเมื่อเงินประกันชีวิตเป็นชื่อเธอคนเดียว ทุกข้อที่ยกตัวอย่าง ส่วนใหญ่ผมรับได้แต่ต้น
บางข้อผมอึดอัดในตอนต้นแต่คุยกันแล้ว ผมรับได้ครับและตามใจเธอทุกอย่างอะไรที่ทำแล้ว แฟนผมมีความสุข ผมทำให้ได้ทุกอย่าง ทุกวันนี้ชินและมีความสุขมากๆๆ ถ้าภรรยาผมไปปรับปรุงตัวเองให้เด่นหรือแปลกไปผมรับไม่ได้ครับ เพื่อนมีล้อว่า กลัวเมียบ้าง ผมเฉยครับและบอกว่าผมมีความสุขมากๆอยู่แล้ว ไม่แคร์ใครครับ ระวังเพื่อนกับเมีย
ผมเลือกเมียครับ เวลาคุณแก่ เวลาคุณป่วย เวลาคุณจะตายคุณจะกุมมือเพื่อนแล้วร้องไห้หรือป่าวครับ? ลูกเมียต่างหาก คือ คนที่จะแบ่งปันทั้งสุขและทุกข์กับเรา ผมโชคดีที่มีเพื่อนดีๆที่ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวผมเยอะมากๆชีวิตผม ผมเลือกเองครับ ผมรักของผมแบบนี้
สิ่งที่จะบอกทุกคนคือ1 คุณเลือกแฟนของคุณแบบนี้เอง ถ้าเค้าไม่ถูกใจจะไปบ่นทำไม2 No one is perfect. คุณก็ไม่ perfect ผมก็ไม่perfect แต่ ถ้าคนสองคนรักกันมากๆ เราจะมองแต่ข้อดีของกันและกันครับ Positive thinking กับชีวิตครับ แล้ว ชีวิตจะมีความสุข3 อย่าไปเปรียบเทียบชิวิตคู่เรากับคนอื่น เทียบสูงไม่เท่า เทียบต่ำยังเหลือ เรายังโชคดีกว่าคนหลายล้านในโลกที่มีโอกาส รัก และ ถูกรัก
หลายคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะเดิน พูด หรือ ทานข้าวเองผมและครอบครัวเพิ่งไปบริจาคเงินและเลี้ยงเด็กพิการปากเกร็ดมา ชีวิตหลายร้ ยชีวิตในที่แห่งนั้น ลำบากกว่าเราเป็นร้อยเป็นพันเท่าและใครบางคนมัวแต่วิจารณ์สิ่งที่ไม่ดีของคนข้างตัวที่ เราเป็นคนเลือกเอง นิ้วหนึ่งนิ้วที่ชี้ต่อว่า แฟนคุณนั้น อีกสี่นิ้วชี้หาตัวคุณเองนะครับ
ถ้าคุณเบื่อแฟนคุณเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วไปมีคนใหม่ เดี๋ยวคุณก็หาเรื่อง ติหาเรื่องว่า แฟนคนใหม่คุณได้อีก คุณไม่รักและภูมิใจในแฟนคุณ แล้ว ใครจะรักครับและผมไม่อยากให้ผู้หญิงเอาเรื่องผมไปให้แฟนคุณอ่านเพื่อให้ทำตาม คนไม่ใช่หุ่นยนต์ครับ
กรุณาเคารพตัวตนปัจเจกชนของผู้ชายแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันด้วยเพราะผู้หญิงหลายคนหรือคุณเองก็ทำสิ่งดีๆที่แฟนผมทำมากมายให้ผมไม่ได้
ภรรยาของผมมีข้อดีเป็นล้านๆๆข้อ มากกว่าข้อเสียเก้าข้อข้างต้น เช่น
เป็นเด็กเรียน ไม่เคยเที่ยวกลางคืนในชีวิตไม่ดื่มเหล้าเบียร์และเล่นอบายมุขใดๆ และเป็นคนใจบุญมากๆท่องชินบัญชรได้คล่อง ตอนแต่งงาน ท่องบทสวดได้หมด ผมไม่ได้เลย!อายสุดๆๆ สุดท้ายผมก็พัฒนาเรื่องทางธรรมไปให้ใกล้เธอมากที่สุดพยายามครับ, ภรรยาผมให้นมลูกเองมาสองปีกว่า เหนื่อยมากๆ แต่เธอไม่บ่นสักคำ ผมซึ้งมากครับ มีกี่คนในประเทศที่เป็นแบบนี้ผมภูมิใจของผมเองนะ ไม่ได้โอ้อวด, ผมจะถอยรถAccord ป้ายแดงให้ภรรยา เธอยืนยันขอขับรถเล็กคันเก่าสองแสนโลแล้ว ไปเรื่อยๆ ??ซื้อมาราคาลดสมชื่อ เก็บเงินให้ลูกดีกว่า เธอว่างั้นครับเรื่องอื่นๆฟุ่มเฟือยไม่ต้องพูดถึง เธอใช้มือถือรุ่นเก่าสุดครับ ยิ่งไปกว่านั้น
ผมเป็นแฟนคนแรกในชีวิตเธอครับ เดี๋ยวนี้อย่าถามวัยรุ่นสมัยนี้เลยครับเรื่องนี้
อายุสามสิบต้นๆ เราปลดห ี้บ้าน 150 ตารางวาแถวรามคำแหงราคาตลาดตอนนี้ 8-10 ล้านในเวลาเพียง 6 ปี เรามีรถหลายคันเรามีทุกอย่างที่เราอยากได้ มีเงินเก็บเป็นล้าน ไปเที่ยวเมืองนอกทุกปี
ด้วยการบริหารเงินในบ้านของเธอ เราคิดว่า ก่อนสี่สิบเราสามารถเกษียณตัวเองได้ ถ้าเราอยากทำทั้งที่เราสองคนเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งคู่ โหนรถเมล์มาด้วยกันทุกอย่างมาจากสองมือเราไม่มีจากที่บ้านเลยเพราะที่บ้านเราทั้งสองรับราชการทั้งคู่
ผมอยาก สรุปสั้นๆว่า
ถ้าเรามัวหลงละเลิงกับกิเลสรอบข้างไม่ว่าจะเป็นกิ๊กใหม่ที่ดูสาวกว่าแฟนเราดูหนุ่มดูดีกว่าแฟนเรา ปรับตัวเราไปให้ดึงดูดเค้าเราจะไม่มีวันพอใจกับคู่และชีวิตเลยครับ คุณจะเหนื่อยตลอดชีวิตและไม่มีวันพบรักแท้
ลองนึกเล่นๆว่า ถ้าสมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่เราสมัยนั้น เป็นแบบรุ่นเราบางคนสังคมไทยคงวิบัติสุดๆครับ เราคงไม่อยากให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเรานำด้านไม่ดีของรุ่นเราไปปรับใช้นะครับ เหรียญมีสองด้านครับอยู่ที่มองด้านไหน คุณอาจจะปรับตัวเองเพื่อหลอกบางคน บางเวลาได้แต่คุณหลอกทุกคน ทุกเวลาไม่ได้ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดครับเค้าจะรักที่ตัวคุณ ไม่ใช่เสื้อผ้า เครื่องประดับหรือเงินคุณ
จงพอใจกับคู่ของคุณเพราะ 'คุณเป็นคนเลือกเองครับ'ก่อนมาเขียนก็เกริ่นๆกับภรรยาแล้วแต่เค้าไม่อยากให้มาเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟังแต่ผมคิดว่าจำเป็นครับที่อยากให้ทุกท่านโหวตให้ผมครับเพื่ออีกกระทู้ชู้กิ๊กนั้นจะได้ตกไปและสังคมไทยจะได้มีอีกมุมมองที่แตกต่างกันไปในทางที่ดีครับ.


ที่มา..http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=53&post_id=1290649

Diary:วันวานที่น่าจดจำ."สอบเสร็จแล้ว โล่งใจ กับวันสบายๆของฉัน"


สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกๆคน คึดถึงนะ งงอ่ะดิ 55+ ก็เราไม่น่ามาอัพนานมากแล้วไง ก็ช่วงที่ผ่านมางานมันเยอะมากมาย แล้วก็มีสอบแทบทุกวันเลย เฮ้อเหนื่อยจัง แต่วันนี้อ่ะ สบายๆๆแล้วหล่ะ เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าสอบเสร็จแล้ว เย่ๆๆๆ วันนี้ข้าพเจ้าก็นั่งปั่นการบ้านทุกอย่างจนเสร็จเรียบร้อย 555+ เพราะพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะต้องไปราชภัฎ เพื่อไปทำวิจัยค่ะ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ไปทำมานานและ 55+ ป่านนี้เชื้อต่างๆคงเน่าหมดแล้วมั่ง

เพื่อนๆค่ะตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าได้ผ่านเรื่องราวต่างๆๆมามากมายตลอดเดือนนี้ ข้าพเจ้ามีข้อคิดในชีวิตต่างๆมากมาย ตั้งแต่เรื่องที่มีการสอบทุกวัน ทำให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตมากขึ้นว่า ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆชีวิตนี้ แม้ข้าพเจ้าจะอ่านหนังสือมาก อาจจะทำให้ข้าพเจ้าทำข้อสอบไม่ได้ด้วยซ้ำ เนื่องด้วยเครียดมากเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าเวลาที่ข้าพเจ้าพักผ่อนเพียงพอ สมองของข้าพเจ้าจะปลอดโปร่ง และอารมณ์ดีเวลาทำข้อสอบด้วย ไม่รู้สิ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

สำหรับช่วงสอบกลางภาคที่ผ่านมาข้าพเจ้าคิดว่าทุกวิชาก็ยากพอสมควร ซึ่งทุกวิชาต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีทั้งหมด ซึ่งข้าพเจ้าก็พยายามเต็มที่ สุดแล้วแต่ว่า จะอ่านตรงแค่ไหน แต่ก็สุดความสามารถแล้ว แค่ตอนนี้ก็รอแค่ผลสอบเท่านั้น ซึ่งข้าพเจ้าก็ไม่ได้คิดว่าจะได้คะแนนดีเลย เพราะความยากของข้อสอบนั่นแหละ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้ข้าพเจ้าก็จะทำทุกอย่างในการเรียนให้ดีที่สุด


ความทุกข์........ มีไว้เป็นแบบทดสอบความแข็งแกร่งของชีวิต





วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

28 ข้อคิดเตือนใจในการดำเนินชีวิต

เอาอะไรดีดีมาฝาก
1. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด
2. จงวางแผนล่วงหน้า : ฝนยังไม่ตกหรอกนะตอนโนอาห์สร้างเรือน่ะ
3. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำน่ะแหละ
4. ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น
5. "อย่ากลัวความฝันของคุณ มันง่ายกว่าที่คิด"
6. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดี ก็คุณน่ะแหละ
7. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว
8. บางครั้งวิธีช่วยที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ ผลักเขาแรงๆ (หมายถึงผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ลังเลอยู่น่ะ)
9. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ
10. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ
11. มอบสองสิ่งให้กับลูกของคุณ อย่างหนึ่งคือรากฐานที่มั่นคง อีกอย่างก็คือ ปีกที่จะบินออกไปเอง
12. การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น
13. คนคนหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่างแต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น
14.เพื่อนแท้คือคนที่เชื่อว่าคุณเป็นฟองไข่ที่สมบูรณ์แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะมีรอยร้าวไปแล้วครึ่งหนึ่ง
15. นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าหน้าที่ของคุณบนโลกใบนี้จบสิ้นแล้วหรือยังถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันก็ยังไม่จบ
16. ชีวิตเรียนรู้ได้จากการย้อนระลึกถึง แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า
17. การใช้ชีวิตอยู่บนโลกนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายแพงมากแต่เราก็ได้เดินทางรอบดวงอาทิตย์ฟรีๆ เป็นของแถม18. ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เราจะร่ำรวยความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อความร่ำรวย เริ่มครอบครองมนุษย์19. เรารู้สึกดีที่มีความสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเป็นคนดี
20. มีแต่ปลาตายที่ลอยตามน้ำ
21. คุณค่าของคนคนหนึ่งบอกได้จากวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคนที่เขาไม่ต้องการ
22. เงยหน้าขึ้นรับแสงตะวัน แล้วคุณจะไม่มีวันพบกับเงามืด - เฮเลนเคลเลอร์
23. คนอ่อนแอเท่านั้นที่ให้อภัยใครไม่เป็นการให้อภัยเป็นคุณสมบัติของผู้เข้มแข็ง
24. คำว่า listen (ฟัง) นั้นใช้ตัวอักษรชุดเดียวกับคำว่า silent (เงียบ)
25. ไม่มีผู้โดยสารบนยานอวกาศที่ชื่อว่า "โลก" พวกเราทุกคนล้วนแต่เป็นลูกเรือทั้งสิ้น
26. ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น
27. เมื่อคุณพูดความจริง คุณไม่จำเป็นต้องไปนั่งจำอะไรทั้งนั้น
28. เด็กๆต้องการความรักมากที่สุดเมื่อพวกเขาทำตัวไม่น่ารัก

ที่มา...http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1193983

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ "เรื่องเปิ่นๆของฉัน"

มาอัพบล็อกแล้วจ้า พร้อมกับเรื่องเปิ่นๆๆๆ

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกๆคน เราไม่ได้อัพบล็อกนานมากแล้วค่า ไม่ได้มาเขียนบันทึกประจำวันเลย
แต่วันนี้ไม่เขียนไม่ได้จริงๆๆ ถึงการบ้านจะเยอะแค่ไหน ก็ขออัพหน่อยเถอะ เพราะเรามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง
เราเป็นคนใจร้อนมากไหมนะ เราเป็นคนที่ดินไม่ดูตาม้าตาเรือเอาซะเลยละมั่ง เพื่อนๆคงเซ็ง ว่าจะบ่นอะไรให้ฟัง ใช่ไหม? วันนี้ก่อนเรียนพิเศษบ้านพี่สน เราก็ไปซื้อขนมที่ 7-11 เรื่องนี้เกิดเหตุที่ถนนหน้า 7-11 กลางถนนเลย รถ 10 ล้อจะชนเราอยู่แล้ว ถ้าเพื่อนโมไม่จับแขนเราไว้ได้ทัน โอ้พระเจ้าช่วย รอดตายอย่างหวุดหวิดเลย
แต่จริงๆนะ รถเค้าก็เห็นว่าเรากำลังจะข้าม ทำไมทำแบบนี้ ไม่หยุดให้เลย แต่อย่าไปโทษเค้าเลย เราต้องโทษตัวเองดีกว่า จริงม่ะ รู้สึกถึงความใจร้อนของตัวเองเลย
เรื่องนี้สอนให้ข้าพเจ้ารู้ว่า อย่าได้รีบข้ามถนน มองซ้ายมองขวา อย่าใจร้อน แล้วก็ควรมีเพื่อนข้ามถนนด้วยถ้าจะดี เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพื่อนอาจช่วยเราได้ ทำให้สถานการณ์ที่น่าจะย่ำแย่ กลับกลายเป็นเรื่องเปิ่นๆๆ เรื่องหวาดเสียว ที่ช่วยเตือนสติเราต่อไป ในการข้ามถนนครั้งหน้า

แล้วจะอัพใหม่นะค่ะ....

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ภาษาอังกฤษ: If everybody in the world could have exactly what he or she wanted, would the world be a better place?


"If everybody in the world could have exactly what he or she wanted, would the world be a better place?"

>> I think, this sentence is false because. If everybody get something that they want. The world have chaotic life. In a day, People use time to thinking about they want. When they get something that they want finally They doesn'twant to do anything. Sometimes,In something they want maybe affect to other people or affect to them in the future.

ภาษาอังกฤษ: If you really want to do something you can do it. True or false?


" If you really want to do something you can do it. True or false?"

>>If I really want to do something i can do it. This sentence is true for me. Because I have a feeling that I am sure about my abilities. and If I try to do that something I want Ican do it surely. But you thinking about success in something that you want. you must recall In the life everybody take the bad with good. If you are lucky enough, something you want you success. But If you aren't lucky enough, something you want you may not success.

>For example>> You would like to gey "4" you can get it when you must practise exercise every subject a lot, pay attention to listen teacher.

ภาษาไทย:ย่อเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ครึ่งหลัง


ฉบับที่ 11

ประพันธ์กลับกรุงเทพได้ 3 อาทิตย์ มาอยู่ที่บ้านใหม่ บ้านใหม่ที่เขาคิดว่าไม่มีความสุขเลย ประพันธ์ได้เล่าให้พ่อประเสริฐฟังถึงตอนที่อยู่เพชรบุรีว่า ได้ทะเลาะกับแม่อุไร แล้วเลยกลับกรุงเทพ มีเรื่องขัดใจ มีปากเสียงกันตลอดขากลับ เมื่อมาถึงที่บ้านใหม่ ก็ต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกัน แม่อุไรไม่อยากจัดบ้านขนของ เพราะถือตนว่าเป็นลูกผู้ดี และนอกจากนั้นก็มีเหตุให้ขัดใจกันเรื่อยๆ ไม่ว่าประพันธ์จะทำอะไร แม่อุไรก็มองว่าผิดเสมอ

ฉบับที่ 12

แม่อุไรได้แท้งลูก และสิ้นรักประพันธ์แล้ว แต่ประพันธ์ก็ยังทนอยู่กับแม่อุไร ยอมฝืนรับชะตากรรม แม่อุไรชอบไปเที่ยวและชอบไปคนเดียว พอประพันธ์ถามว่าไปไหน แม่อุไรก็โกรธฉุนเฉียว นานเข้าห้างร้านต่างๆก็ส่งใบทวงเงินมาที่ประพันธ์ ประพันธ์จึงเตือนแม่อุไร แต่แม่อุไรกลับสวนกลับมาว่า ประพันธ์ไม่สืบประวัติของเธอให้ดีก่อน และเธอก็จะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ประพันธ์จึงต้องไปขอเงินพ่อเพื่อใช้หนี้ ต่อมาพ่อของประพันธ์จึงลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ เรื่องจะไม่ชดใช้หนี้ให้แม่อุไร เมื่อแม่อุไรเห็นแจ้งความ จึงลงย้อนกลับบ้าง แล้วแม่อุไรก็กลับไปอยู่บ้านพ่อของเธอ คุณหลวงเทพปัญหามาหาประพันธ์ คุยเรื่องต่างๆกัน รวมถึงเรื่องแม่อุไร ที่เที่ยวอยู่กับพระยาตระเวนนคร ด้วยความเป็นห่วงแม่อุไร จึงส่งจดหมายไปกล่าวเตือน แต่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆกลับมา ต่อมา หลวงเทพ ก็มาหาประพันธ์เพื่อบอกว่า แม่อุไรไปค้างบ้านพระยาตระเวนนครแล้ว และหลวงเทพก็รับธุระเรื่องขอหย่า ตอนนี้ประพันธ์จึงกลับมาโสดอีกครั้ง

ฉบับที่ 13

ประพันธ์มีความสุขที่ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ส่วนแม่อุไรก็ไปอยู่กับพระยาตระเวน พระยาตระเวนมีนางบำเรออยู่ถึง 7 นาง และทั้งหมดก็แผลงฤทธิ์เวลาพระยาไม่อยู่ พระยาตระเวณจึงหาบ้านให้แม่อุไรอยู่อีกหนึ่งหลัง ประพันธ์ได้ย้ายตำแหน่งการทำงาน มาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ ทางเสือป่า ประพันธ์ เข้าประจำกรมม้าหลวง

ฉบับที่ 15

ประพันธ์คิดว่างานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาคงจะสนุกมาก พระยาตระเวนก็สนุกเหมือนกัน เพราะไปไหนมาไหนเป็นชายโสด เนื่องจากพระยาตระเวนกับแม่อุไรยังไม่ได้เป็นผัวเมียกันตามกฏหมาย ตอนนี้พระยาตระเวนติดผู้หญิงที่ชื่อสร้อย แต่แม่อุไรก็ยังได้แต่นิ่งเฉยไม่สามารถทำอะไรได้

ฉบับที่ 17

ประพันธ์ไปอยู่ที่ค่ายตอนนี้ได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่ขึ้น พอกลับบ้าน แม่อุไรก็มาหาประพันธ์ที่บ้าน หล่อนมาง้อประพันธ์ให้ชุบเลี้ยงหล่อนอีกครั้ง เพราะหล่อนไม่มีที่ไป บ้านที่หล่อนเคยอยู่ พระยาตระเวนก็ยกให้แม่สร้อย จะไปหาพ่อ ก็เคยพูด อวดดีกับพ่อไว้ แต่ประพันธ์เห็นว่าให้หล่อนกลับไปง้อพ่อจะดีกว่า หล่อนจึงไปง้อพ่อแล้วก็ไปอยู่กับพ่อ

ฉบับที่ 18

แม่อุไรได้แต่งงานกับหลวงพิเศษ ผลพานิช พ่อค้ามั่งมี ประพันธ์จึงคลายห่วง ส่วนประพันธ์ก็ได้รักชอบพอกับ นางสาวศรีสมาน ลูกสาวพระยาพิสิฐเสวก

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

สวัสดี มาอัพแล้ว!!! หลังจากการหายไปกับการเขียน Diary ไปนาน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกของการเปิดเทอม เหนื่อยจังงงง การบ้านเยอะมากมายยยยยยยยย ทั้งโครงงาน สไลด์ชีววิทยา ไม่รู้จะบ่นอะไรให้ฟังดี
ตีบตันอยู่ในหัวไปหมดมีเรื่องงงมากมายกะชีวิต เครียดจริงๆ กะการเรียน แต่อย่างไรก็แล้วแต่ จะพยายามเต็มที่ เราไปทำการบ่านก่อนนะ
#### แล้วเราจะมาอัพบ่อยๆนะ

ภาษาไทย:ย่อเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม ครึ่งแรก


จดหมายถึง นายประเสริฐ สุวัฒน์

ฉบับที่ 1

ประพันธ์เขียนจดหมายถึงนายประเสริฐขณะที่กำลังนั่งเรือกลับบ้าน เขียนอาลัยอาวรณ์ต่อการจากลอนดอน จะไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำอีกแล้วชอบทำ เคยทำ เมื่อมาอยู่เมืองไทย และนอกจากนั้นนายประพันธ์ยังได้ฝากความรักถึงหญิงคนรักอีกด้วย

ฉบับที่ 4

ประพันธ์เมื่อถึงเมืองไทยต้องไปพบปะผู้คนมากมาย เพื่อหางานทำ พ่อของประพันธ์ต้องการให้ประพันธ์เข้ารับราชการในพระราชสำนัก แต่ตำแหน่งว่างหายาก ประพันธ์จึงคิดประกอบอาชีพทางการค้า แต่พ่อของประพันธ์ขัดข้อง เพราะอาชีพค้าขายนั้นเป็นใหญ่เป็นโตยาก พอประพันธ์กลับถึงบ้านได้ 7 วัน พ่อของประพันธ์ก็บอกว่า หาเมียไว้ให้คนหนึ่งแล้ว ประพันธ์ไม่ยอมแต่งงานแบบคลุมถุงชน จึงเกิดการทะเละขึ้นระหว่างพ่อลูก แม่ของประพันธ์จึงบอกให้รอดูตัวก่อน จึงค่อยสู่ขอ ประพันธ์คิดว่ากรุงเทพหาที่เที่ยวยาก และเขาก็ยังไม่พบผู้หญิงที่ถูกใจ จนกระทั่งประพันธ์ได้ไปดูภาพยนตร์ จึงได้พบผู้หญิงที่เข้าตาคนหนึ่ง

ฉบับที่ 5

ประพันธ์ได้เข้ารับราชการ พ่อของประพันธ์ได้พาประพันธ์ไปดูตัวกิมเน้ย ประพันธ์คิดว่า หน้าตาแม่กิมเน้ย เหมือน ซุน ฮู หยิน และแต่งเครื่องเพชรมากเกินไป ส่วนผู้หญิงที่เข้าตาประพันธ์นั้น ชื่อ อุไร พรรณโสภณ และที่ถูกใจประพันธ์มากคือ แม่อุไร ได้หัดเต้นรำแล้ว

ฉบับที่ 6

ประไพน้องส่าวของประพันธ์ ได้เชิญแม่อุไรให้ไปดูการแต่งไฟทางลำน้ำ ประพันธ์กับแม่อุไรจึงได้ทำความรู้จักสนิทสนมกัน ในงานฤดูหนาว ประพันธ์ได้มีโอกาสพาแม่อุไรเที่ยวทุกคืน ประพันธ์ได้เล่าให้ประเสริฐฟังถึงความงามของแม่อุไร และได้กล่าวถึงแม่กิมเน้ย ที่ไม่ยอมพูดด้วย เมื่อเห็นประพันธ์ไปกับแม่อุไร

ฉบับที่ 9

ประพันธ์ได้แต่งงานกับแม่อุไรแล้ว หลังจากประพันธ์ได้กลับจากหัวหิน ประพันธ์ก็บอกพ่อว่า มีความรักกับแม่อุไร แต่พ่อของประพันธ์ไม่อยากได้แม่อุไรมาเป็นลูกสะใภ้ จึงขอให้รอดูอีก 1 ปี แต่ประพันธ์บอกว่าถ้าอยู่รออาจได้หลานก่อน พ่อของประพันธ์จึงขัดข้องไม่ได้ จึงจัดการสู่ขอให้ เมื่อทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว จึงได้ไปฮันนี่มูนกันที่หัวหิน



วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เคล็ดลับ เรียนเก่ง 13 ประการ



1.เราต้องมีความรับผิดชอบคะ-เราต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบ้าน เรื่องเรียน หลายคนเวลาลืมทำการบ้าน ก็จะบอกอาจารย์ว่าหนูลืมคะ นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีนะคะ (คนเขียนทามบ่อยคะ อิอิ)

2.เริ่มต้นดี-ใครหลายๆคนนะคะ เวลาเปิดเทอมใหม่ๆนี่ ก็จะตั้งใจเรียน แต่พอไปหลังๆนี่ เริ่มแร้วคะ ถ้าเราเริ่มต้นดีตั้งแต่ตอนแรก และก็ดีเสมอไป รับรองคะ

3.กำหนดเป้าหมายในการเรียนอย่างแน่วแน่-เพื่อนๆหลายคนตอนนี้ อาจจะกำลังศึกษาอยู่ ม.3 หลายคนก็ศึกษาอยู่ ม.6 ในการเรียนต่อนั้น เพื่อนๆต้องกำหนดให้เป้าหมายในการเรียนให้ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว และทุ่มเทความพยายามให้บรรลุเป้าหมายนั้น

4.วางแผนและจัดการ-มีการวางแผน จัดลำดับสำคัญของกิจกรรมที่ต้องทำ หากทำเป็นตารางสัปดาห์ได้ก็ยิ่งดีใหญ่เรยนะคะ

5.มีวินัยต่อตนเอง-เมื่อกำหนดเป้าหมาย วางแผนและจัดการเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องสัญญากับตนเองอย่างแน่วแน่ที่จะมีวินัย และปฏิบัติตาม

6.อย่าล้าสมัย-วิทยาการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การค้นคว้าหาความรู้ ต้องอิงกับข้อมูลที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์

7.ฝึกตนเองให้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ-ศึกษาข้อมูลเสนอแนะ และฝึกทักษะการเรียนรู้

8.เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู้ชั้นเรียน-เตรียมตัวเป็นผู้ใฝ่หาความรู้อย่างแข็งขัน เตรียมอุปกรณ์หนังสือที่จะใช้ในการเรียนให้เรียบร้อย

9.มุ่งมั่นจดจ่อต่อบทเรียน-ในการเรียนนั้นเราก็ควรที่จะมีความมุ่งมั่น ตั้งใจฟังที่อาจารย์พูด อาจารย์สอน ไม่เข้าเรียนเพื่อที่จะมานั่งพูดคุยกัน หรือรอเวลาให้เลิกเรียนเร็วๆ

10.เป็นตัวของตัวเอง-รู้จักคิดและทำ ด้วยความสามารถของตนเอง คิดเสมอว่าเราเป็นผู้หนึ่งที่มีศักยภาพสูงเหมือนกัน

11.มีความกระตือรือล้น-ความสำเร็จเป็นของผู้ที่มีความริเริ่ม เป็นฝ่ายรุกที่จะมุ่งหน้า และคว้าความสำเร็จเป็นของตนเอง

12.มีสุขภาพดี-เพื่อนๆอย่าลืมใส่ใจถึงสุขภาพทางร่างกายของตัวเราเองนะคะ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมทางสังคมต่างๆก็มาถึงเคล็ดลับทางการเรียนข้อสุดท้ายกันแล้วคะ

13.เรียนอย่างมีความสุข-เราต้องพยายามที่จะเก็บเกี่ยวความสนใจในบทเรียน คิดเสมอว่า วิชานี้น่าเรียน เรียนสนุก ไม่ต้องไปเครียดกับมัน แล้วเราก็จะเรียนอย่างมีความสุขคะ


ขอบคุณบทความดีดีจาก...http://blog.eduzones.com/rangsit/11322

ภาษาอังกฤษ: Story of my life. Searching for my dream


This is my intention!!


I wanna learn at Mahidol University.

I wanna learn about biology, healthcare and humanbody.

Because I would like to be a doctor.

After I finished education from University,

I wanna work at hospital. and I wanna open clinic.

I wanna travel around the world.

Because I wanna learn about culture around the world.

So I get salary I will give a part of money to my parents.

I will take care my parents.

I will make my family happy. I will do everything

that make my parents impressed.


" The more strength we use, the stronger we become"


My parents wanna............................

-Should concentrate and focus on what I want to do and believe in myself.

-To eat a lot of vegrtables.

-Love everything that I done.

-Don't worry about everything very much.

-Happy in my life.

-Pay attention my parents when they old.


All the dream You have inside. Don't be afraid...

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

10 คำปฏิญาณวันเปิดเทอม..[มัธยมฯควรอ่าน..]

คำปฏิญาณขอปฏิบัติตัวในช่วงเปิดเทอม
- ข้อ 1. ข้าพเจ้าจะไม่นอนดึกเกิน 22.00 น. เพื่อจะได้ไม่ไปโรงเรียนสาย..
- ข้อ 2. ข้าพเจ้าจะลดเวลาการเล่น hi5 และแชท Msn ให้เหลือวันละ 1 ชั่วโมง..[แต่เว็บเด็กดีเล่นได้ตลอดครับ..อิอิ..]
- ข้อ 3. ข้าพเจ้าจะดูละครเรื่องเดียวเท่านั้น คือสังข์ทอง เพราะเป็นละครในเช้าวันหยุด..ไม่ส่งผลต่อการเรียน..
- ข้อ 4. ข้าพเจ้าจะขันอาสาออกรายงานหน้าชั้นทุกครั้ง..ที่มีโอกาส..
- ข้อ 5. ข้าพเจ้าจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมกีฬาสี เช่น นักกีฬา ,แสตนด์เชียร์ ,เชียร์ลีดเดอร์ หรือฝ่ายพยาบาล อย่างใดอย่างหนึ่ง..
- ข้อ 6. ข้าพเจ้าจะเรียนกวดวิชาให้น้อยลง แต่จะหันมาทบทวนหนังสือจนเข้าใจให้มากขึ้น..
- ข้อ 7. ข้าพเจ้าจะทำเวรความสะอาดตามวันที่ได้รับมอบหมาย ไม่เบี้ยวเวรโดยเด็ดขาด..
- ข้อ 8. ข้าพเจ้าจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน เช่น วันลอยกระทง ,วันคริตส์มาส ,วันปีใหม่ ,ค่ายพักแรม อย่างใดอย่างหนึ่ง
- ข้อ 9. ข้าพเจ้าจะต้องมีเกรด 4 ในสมุดพกในสัดส่วนร้อยละ 80% ของวิชาทั้งหมด..
- ข้อ 10. ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำปฏิญาณทั้ง 9 ข้อก่อนหน้านี้ทันที..หากไม่ปฏิบัติตาม ขอให้ในสมุดพกมีเกรด 0 ในสัดส่วนร้อยละ 80% ของวิชาทั้งหมด
เอาหละครับ..คำปฏิญาณทั้ง 10 ข้อที่ว่ามานี้..น้องๆชาวเด็กดีทำได้กันหรือเปล่าเอ่ย..และหากใครเผลออ่านปฏิญาณไปแล้วแต่ไม่ทำตามไม่ได้..ให้ไปอ่านข้อที่ 10 ได้เลยครับ..และทำใจรับมือกับมันได้เลย..อิอิ..

ที่มา...http://www.dek-d.com/content/view.php?id=11649

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

สวัสดีอ่ะนะ!!

วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกอ่ะนะ เราภาวนาให้ฝนตกจนน้ำท่วมโรงเรียนอยู่ หุหุ!! แต่มันไม่ตกซะนี่ เซ็งเป็ด หุหุ วันนี้คนไปโรงเรียนพอสมควรอ่ะนะห้องเราอ่ะ แต่บางคนก็ไม่ได้ไป หุหุ ช่างน่าอิจฉาซะนี่กระไร หุหุ !!
รู้อย่างงี้น่าจะหยุดบ้าง น่าเสียดายจัง หุหุ วันนี้ได้เรียนแบบเต็มที่ก็สองวิชาอ่ะนะ คือคณิตศาสตร์พื้นฐาน และ ฟิสิกส์ และก็ยากพอสมควร ทีเดียวเลย พรุ่งนี้ข้าพเจ้าก็จะไปเรียนเป็นวันที่ 2 แล้วนะค่าๆๆ ข้าพเจ้าจะตั้งใจเรียนในเทอมนี้ให้เต็มที่เลย เพื่อให้พ่อกะแม่ภูมิใจในตัวลูกคนนี้ สู้สู้!!!

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ สวัสดี

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

หุหุหุ!! มารายตัวแล้วเจ้าค่ะ!!!




สวัสดีค่ะ อยากมาเล่าประสบการณ์ดีดีที่เราไปทำงานที่ราชภัฏเพชรบุรีมา กะเพื่อนๆอีก 3 คนค่า ซึ่งสนุกมากมากเลย ออืมมีภัทรอีกคนนะจ๊ะ (เดี่ยวน้อยใจ) หุหุ แต่หารูปแม่คุณเธอไม่ได้จิงๆๆๆ

พวกเราทั้ง 4 คนนะค่ะก็ไปทำอะไรมาหลายอย่าง ก็เอาภาพมาให้เพื่อนดูก็แล้วกันค่ะ



มันมีมากกว่านี้อีกค่ะ นอกจากนี้เรายังไปเก็บพืชต่างๆๆกันมาด้วย เพื่อมาทำการแยกเอนไซม์ และงานที่หนักที่สุดของพวกเรานะค่ะ จนตัวเราเองถึงเก็บเอาไปฝันเลยทีเดียว คือการล้างเพลตที่มีแต่ราค่ะ โอ้แม่เจ้า!!!

ได้อีกเยอะนะนั้นอ่ะ แต่ก็เป็นการใช้เวลาที่มีประโยชน์จริงๆค่ะ

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะ บบาย

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่องโดน!!!!

มาดูกันว่า...จริงไหม§ การคบคนก็เหมือนกับไส้อั่ว ดูจากภายนอกจะไม่ค่อยน่ากิน. . . . . .แต่เมื่อได้ชิม. . . . . ก็จะรู้ ว่า. . . . .รสชาติ ไม่ได้เหมือนกับ ที่คุณเห็น § จิตใจของคุณก็เหมือนกับไข่ 1 ฟอง ที่ดูภายนอกแล้วแข็งแกร่ง. . . . . แต่เมื่อคุณลองกระเทาะ เปลือกออกมา ก็จะเห็นว่าคนๆนั้นๆ. . . . . . ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคุณเลย § ร่างกายของคนๆหนึ่งก็เหมือนกับน้ำแข็ง ที่สักวันหนึ่ง. . . . .มันก็ต้องละลายไป. . . .
§ นิสัยของคนก็เหมือนกับข้าว ถ้าคุณไม่หุง. . . . . . ย่อมกินไม่ได้ § ความรักที่อกหักก็เหมือนกับต้มยำ. . . .ที่มีทุกรส ยกเว้น. . . . ความหวาน § ความรัก. . . . . ก็เหมือนกับไข่เจียว ที่คุณกินได้ทุกวัน. . . . . . แต่ก็ยังไม่เบื่อ § ชีวิตวัยรุ่นก็เหมือนกับ. . . . Pepsi ที่อึกแรกมักจะซ่า. . . . แต่เปิดทิ้งไว้นานๆเข้า ก็หายซ่าไปเอง. . . . .เหอๆๆๆ
§ ชีวิตวัยรุ่นก็เหมือนกับสัตว์หลายๆชนิดในสวนสัตว์ ที่ต้องการออกไปสู่โลกกว้าง. . . . . § ถ้าคุณกำลังอกหักแล้วยังมองหารักใหม่...โดยที่จะเอามารักษาแผลเดิม ก็จะเหมือนกับตอนที่คุณท้องเสีย. . . . .แต่ดันกินส้มตำ § แฟนก็เหมือนกับเพลงใหม่เพลงหนึ่ง....... ที่คุณมักบอกกับตัวเองว่ามันเพราะ......... แต่เมื่อฟังไปสักร้อยรอบ.........คุณก็จะเบื่อไปเอง § ต่างกับเพื่อนสาว...... ซึ่งเหมือนกับเพลงคลาสสิก. . . . . . .ที่นานๆคุณเปิดที แต่ก็ยังเพราะ. . . . . ไม่ต่างจากครั้งแรกที่คุณฟัง
§ คนๆหนึ่งที่คุณเคยชอบ.....แต่เขาไปชอบคนอื่น.. แต่คุณก็ยังจำทุกอย่างเกี่ยวกับเขาได้ ก็เหมือนกับ เพลงของค่าย RS GRAMMY ที่คุณบอก ว่าเกลียด แต่คุณก็ยังร้องเพลงนั้นได้จนจบ § ลองสังเกตไหมว่าถ้ามีรูปถ่ายหมู่ใบหนึ่ง...... คนที่คุณมองหาคนแรก. . . .คือคนที่คุณชอบอยู่ § เบอร์โทรศัพท์....... ที่ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทคุณ. . . . . . . คุณก็จำไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเบอร์ของคนที่หลงใหลล่ะก็... คุณจะจำได้ทุกตัว. . .แม้ว่ามันจะไม่ซ้ำกันเลย
อ่านแล้วคงโดนกันบ้างนะ- เพลง......ที่คุณชอบมากที่สุดตอนที่คุณมีแฟน..... อาจจะกลายเป็นเพลงที่คุณเกลียดที่สุด. . . . . . เมื่อเขาจากไป - Mail 100 Mail……. ที่เพื่อนคุณส่งให้. . . . ก็ไม่อาจเทียบได้กับ คนรักคุณ...... ที่ตอบมาแค่ว่า “ขอบคุณนะ” - ก็เหมือนกับวันๆหนึ่งที่คุณคุยกับเพื่อนเป็นร้อยประโยคแต่ก็จำไม่ได้ แต่เมื่อคุณได้คุยกับคนที่คุณแอบชอบ. . . . แม้ประโยคเดียว. . . คุณก็จำได้. . . . จนกว่าเขาจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน . . . . . .

ที่มา...http://my.dek-d.com/NooPeNgUiN/story/view.php?id=241943



วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Color My World

สีแดง ให้พลังงานสูงสุด สื่อถึงความรักความปรารถนา ความเร็วและพละกำลัง ขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งอันตรายและการต่อสู้ ถ้าอยากทอนความร้อนแรงของสีแดงให้จับคู่กับสีฟ้า

สีเหลือง สีแห่งความสนุกสนาน มิตรภาพ และการมองโลกในแง่ดี กระตุ้นให้เกิดชีวิตชีวา ความคิดสร้างสรรค์ เมื่ออยู่ร่วมกับสีดำจะทำให้เกิดลุคไฮเทคล้ำสมัย

สีชมพู รู้จักกันในนามสีปลอบประโลมผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ขณะที่สีแดงแสดงถึงความลุ่มหลงเย้ายวน สีชมพูจะสื่อถึงเรื่องรักใคร่ถ้าอยากให้ชมพูดูลุ่มลึกและกร้าวแกร่ง ให้จับคู่กับสีดำหรือกรมท่า

สีดำ แสดงถึงพลังอำนาจ กามารมณ์ และความเจนจัด ลดดีกรีความดำให้น่าจับต้องยิ่งขึ้นด้วยการจับคู่กับสีเหลือง

สีม่วง บ่งบอกถึงความสูงศักดิ์ ลึกลับ และอารมณ์ความรู้สึก ถ้าอยากให้ม่วงหรูหราทันสมัยให้แมตซ์กับสีแปลกตา เช่น สีตระกูลเมทัลลิก

สีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ สะอาด เรียบง่าย และความนอบน้อม นิยมใช้ ถ้าจะลดกรีความแข็งกร้าวของสีเข้ม เช่น สีแดงและสีดำ ให้อ่อนโยนลง ควรคู่กับสีขาว

สีน้ำตาล เป็นสีแห่งธรรมชาติ สามารถกระตุ้นความรู้สึกแข็งแรง มีพลัง และความน่าเชื่อถือ ลองให้สีน้ำตาลกับสีม่วงเข้มไปงานหรือเดตกับหนุ่มที่คุณหมายปองดูสิรับรองมีเฮ!

สีฟ้า สีแห่งสันติ ความน่าเชื่อถือ ความซื่อสัตย์ ความสุขสงบ และความเย็น ช่วยผ่อนคลายและลดระดับความอยากอาหาร ความร้อนในร่างกายและจิตใจ ถ้าแต่งชุดสีฟ้าน้ำทะเลแล้วทาปากสีแดง จะให้ลุคสาวร้อนแรงที่น่าเชื่อถือ

สีเขียว ตัวแทนของธรณี มีผลการวิจัยระบุว่า คนที่ทำงานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมจะมีโอกาสปวดท้องน้อยลง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ประจำวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2551 เครดิต : http://hilight.kapook.com/view/30161แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 24 ตุลาคม 2551 / 16:36


ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1178158

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

รู้ไว้ นิสัย 10 อย่าง ที่ทำให้สมองพัง


ต้นเหตุของสมองเสื่อม ความจำสั้น อัลไซเมอร์สมอง คืออวัยวะสำคัญ มีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว, พฤติกรรม และรักษาสมดุลภายในร่างกาย เช่น การเต้นของหัวใจ, ความดันโลหิต, สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังมีเกี่ยวข้องกับการรับรู้ อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว และความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้


แต่คนเรามักไม่รู้ตัวเองว่าพฤติกรรมบางอย่างที่กระทำลงไป นอกจากจะเป็นการทำร้ายร่างกายไม่พอยังทำร้ายสมองด้วยเช่น

1.ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม


2. กินอาหารมากเกินไป การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น (เช่น เทพธิดาดิว เป็นต้น)


3. การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์


4. ทานของหวานมากเกินไป การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาองสมอง


5. มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกายการสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง


6. การอดนอน การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้


7. นอนคลุมโปง การนอนคลุมโปง จะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง


8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว


9. ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมองการขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ 10. เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง


รู้หรือยังค่ะว่าสมองมีความสำคัญมากแค่ไหน ดังนั่นเราควรที่จะหันมาบำรุงสมองแทนการทำร้ายสมองกันดีกว่ามั้ยค่ะ


วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ที่มาของชื่อเดือน

รู้หรือเปล่าชื่อเดือนในภาษาอังกฤษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันน่ะ มีที่มา ! ไม่ใช่ว่าตั้งมาสุ่มๆ เรามาเริ่มไล่กันเลยดีกว่าว่าเดือนไหนมีที่มาอย่างไร

สมัยก่อนปีหนึ่งๆ มี 355 วัน แต่มีแค่ 10 เดือน

March หรือมีนาคม เป็นเดือนแรกของปี ก็เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งคำว่า March นั้นมีที่มาจากชื่อของเทพเจ้าแห่งสงครามที่ชื่อว่า Mars เนื่องจากว่าชาวโรมันน่ะทำสงครามกันบ่อยนั่นเอง

April หรือ เมษายน มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า “เปิดรับ” เนื่องจากผลผลิตที่หว่านไปในช่วงเดือนมีนาคมจะมาได้ผลเดือนนี้

May หรือ พฤษภาคม มาจากชื่อของเทพเจ้าแห่งการเจริญเติบโต ที่มีชื่อว่า Maia เพราะพวกโรมันเชื่อว่า Maia จะช่วยคุ้มครองพืชพันธุ์ ให้เติบโตอุดมสมบูรณ์ดี

June หรือ มิถุนายม เป็นชื่อที่ตั้งเป็นเกียรติแก่เทพเจ้า Juno ราชินีแห่งสรวงสวรรค์และการแต่งงาน อาจเป็นได้ว่า ชาวโรมันแต่งงานกันมากในเดือนนี้ เพราะเป็นช่วงที่อุดมสมบูรณ์

July หรือ กรกฎาคม ไม่ได้ตั้งชื่อตามเทพเจ้าหรือฤดูกาล แต่มาจากชื่อของจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ Julius Caesar

August หรือ สิงหาคม ก็ตั้งชื่อตามหลานชายของ Julius ที่ชื่อ Caesar Augustus เพราะว่าเขาอยากมีชื่อเสียงเหมือน Julius บ้าง จึงตั้งชื่อเดือนนี้ โดยใช้ชื่อของเขา เดิมทีเดือนสิงหาคมมีแค่ 30 วันซึ่งน้อยกว่าเดือนของ Julius แต่ Augustus เพิ่มวันให้เดือนของตน โดยเอาวันจากเดือนกุมภาพันธ์มาหนึ่งวัน เพื่อให้ตนเท่าเทียมกัน Julius

September หรือ กันยายน มาจากคำภาษาละตินว่า Septem ซึ่งแปลว่า ‘7′ และเดือนนี้ก็เป็นเดือนที่ 7
October หรือ ตุลาคม ก็มาจากคำภาษาละตินที่แปลว่า ‘8′ ซึ่งคือคำว่า Octo


November หรือ พฤศจิกายน ก็มาจากคำที่แปลว่า ‘9′ คือคำว่า Novem นั่นเอง

December หรือ ธันวาคม ก็แน่นอนมาจากคำว่า Decem ที่แปลว่า ‘10′ งัย

January หรือ มกราคม ถูกเพิ่มมาทีหลังพร้อมกับเดือน กุมภาพันธ์ คำว่า January มาจากชื่อของเทพเจ้า Janus ซึ่งเป็นเทพ 2 หน้า หน้าหนึ่งมองไปในอดีต อีกหน้ามองไปสู่อนาคต ซึ่งเป็นช่วงที่คนเราต้องมองย้อนสิ่งที่ตนทำ และมองไปข้างหน้าเฝ้ารอคอยปีใหม่

February หรือกุมภาพันธ์ มาจากคำภาษาละตินที่แปลว่า ‘ชะล้าง’ ซึ่งเป็นเดือนที่คนต้องชะล้างตัวเองให้สะอาดรอรับปีใหม่

ตอนนี้เพื่อนๆ ก็คงรู้แล้วนะว่าชื่อของแต่ละเดือนน่ะมีที่มาอย่างไร

ที่มา...http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1175270

วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

สวัสดีค่ะแล้วเราก็มาอัพบล็อกอีกเช่นเคย ช่วงปิดเทอมนี้ก็เหลืออีกแค่ 9 วันเท่านั้น ก็จะเปิดเทอมแล้ว
เปิดเทอมงั้นรึจะดีใจหรือเสียใจดีหล่ะ พูดไม่ถูก ดีใจที่เปิดเทอมที่จะได้พบกับเพื่อนทุกคน ได้พบกับการเรียนอันแสนสนุกที่มาพร้อมกับความยากลำบาก และความทุกข์นะซินะ เฮอออออออ เลยไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดีเลยยยยยย แต่ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดี นี่เรามาอัพบล็อกหรือมาปลอบตัวเองหรือมาระบายอารมณ์กันแน่เนี้ย แต่ถึงยังไงก็เถอะ ช่วงนี้งานเข้าขนานหนักและก็ขนานใหญ่ซะด้วยซิ คืออย่างนี้นะ (เล่าเปิดทางการเชียว) คือว่าเราอ่ะนะช่วงนี้ก็เรียนอิเล็กโทนอยู่แล้วก็เพิ่งเริ่มเรียนไม่นานนี้ด้วย และเรื่องแสนสุดซวยก็เกิดขึ้น ไม่ใช่เล่นไม่ได้นะ แต่ฉันชอบเครื่องดนตรีนี้มากต่างหากแต่ที่น่าเศร้าก็คือว่า หลังจากเรียนดนตรีจบครอสปิดเทอมนี้ เราก็ต้องขึ้นเวทีเล่นเพลงที่เราเล่นไม่เป็นเลยสักนิด ก็ไม่เคยเล่นมาก่อนอ่ะ ทามไงได้ แล้วเพลงง่ายๆมีเยอะแยะม่ให้เล่น เค้าให้เราเล่นเพลง Yesterday Once More เหอะๆไม่อยากจะพูดว่าเล่นไม่เป็นแล้วโน้ตเนี้ยยิบตาเชียวนะ ดีที่ว่าเล่นกันเป็นกลุ่มนะ ถ้าเล่นคนเดียวมีหวังไม่ไป 555+ แล้วใครจะโง่ปเล่นคนเดียว เสียวจะตายยย ขนาดเล่นเป็นกลุ่ม พูดแล้วก็เซ็ง

งั้นเราไปก่อนดีกว่า บายบาย

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

สวัสดี!!!!~~
555+ วันนี้อ่ะนะเป็นวันที่เราได้รู้คะแนนแล้ว จากที่ใจไม่ปกติมา 13 วันเต็มๆ
เพราะว่าตอนสอบอ่าทามมายได้เรยยยอ่ะ แต่ก็ดีจายที่มีวันนี้ เราได้เกรด 4 ทุกวิชา ถึงคะแนนจะไม่ค่อยดีอ่ะนะ แต่ก็พอใจ พอสมควร เพราะว่าคิดว่าจะไม่ได้ 4.00 แล้ว วันนี้เลยเป็นวันดีดีอีกวันหนึ่ง

555+ มีทั้งน้ำตาและเสียงหัวเราะและใบหน้าที่ยิ้ม เพราะรายน่ะหรอ ก็เพราะว่า จิตใจเราตอนนี้มีทั้งเรื่องที่เราดีใจและเรื่องเครียดๆมากมาย มันสะสม จนบอกอารมณ์ภายในจิตใจไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ความดีใจมีมากกว่านะ

555+ อย่าบอกว่าเราบ้าเลยนะ เพราะความคิดของเราตอนนี้มันจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว

ไปดีว่า บายบาย

ประวัติส่วนตัวของ Mariah carey


ประวัติส่วนตัวของ Mariah Carey


ชื่อจริง : Mariah Carey

วัน/เดือน/ปีเกิด : 27 มีนาคม 1970

ราศี : ราศีมีน

สถานที่เกิด : ลองไอร์แลนด์

ที่อยู่ในปัจจุบัน : นิวยอร์ค
ครอบครัว : คุณพ่อ (อัลเฟรด อาร์ แครีย์), คุณแม่ (แพทริเซีย), พี่ชาย (มอร์แกน), และพี่สาว (อลิสัน)
ส่วนสูง : 5 ฟุต 9 นิ้ว
สัตว์เลี้ยง : มีสุนัข 4 ตัว, แมว 2 ตัว, หนู่แฮมสเตอร์ 1 ตัว, นกอีก 7 ตัว
อาหารที่ชื่นชอบ : อาหารอิตาเลี่ยน
งานอดิเรก : ว่ายน้ำ, ขี่ม้า, แต่งต้นคริสต์มาส
ความสามารถพิเศษ : สามารถไล่เสียงได้ถึง 5 อ๊อคเทฟ ร้องเพลงได้ตั้งแต่เพลงช้าไปจนถึง เพลงป๊อปแดนซ์ ฮิฟฮอฟ และสามารถแต่งเพลงเองได้ด้ว
บุคลิก : ขี้โมโห, เจ้าอารมณ์, ตรงไปตรงมา
ของสุดรัก : เปียโน
สีที่ชื่นชอบ : ชมพู
การ์ตูนที่ชื่นชอบ : Flinstones, The Smurfs

ดอกไม้ที่ชื่นชอบ : ดอกกุหลาบ

กีฬาที่ชื่นชอบ : ว่ายน้ำ

ฤดูที่ชื่นชอบ : ฤดูร้อน

วิชาที่ชื่นชอบ : Creative writing

สิ่งที่ทำให้มีความสุข : เพื่อน ๆ ที่ดี, การร้องเพลง, การแต่งเพลง, สัตว์เลี้ยงของตัวเอง

เครื่องดื่มที่ชื่นชอบ : น้ำมะนาว, ไวน์แดง

สถานที่ ๆ ชื่นชอบ : ทะเล

ที่มา : http://www.geocities.com/sin_ya/profilemariah.htm

ขอบคุณมากมายค่า....

นี่ก็เป็นอีกศิลปินอีคนที่ข้าพเจ้าชอบมากมายยยยยยยยย สำหรับเพลงและความสามารถของเขาค่า

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Diary:วันวานที่น่าจดจำ

สวัสดี!!!! หลังจากที่เราห่างหายไปนาน ไม่ได้มาเขียน Blog เลย ไม่ได้มาเล่าเรื่องราวความสุข ความสนุก ความเศร้า ต่างๆมาเล่าสู่กันฟังใน Blog เลย หลังจากที่เราได้ผ่านการสอบอันมหาโหดไปอ่ะนะ เราก็ต้องไปเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ ที่โรงเรียน ซึ่งมันทำให้เราเซ็งมากมายเลยแหละ เพราะอารายอ่ะหรอ ก็มันเป็นค่ายที่ต่อจากการสอบที่ยาก แล้วหลังจากจบค่ายนี้แล้ว เรายังต้องไปต่อค่ายที่นครนายกอีก เป็นค่ายคณิตอ่ะ

เรามาเล่าประสบการณ์ที่ได้จากค่ายแรกกันดีกว่า นั้นก็คือค่ายที่เพชรบุรี ค่ายวิทยาศาสตร์นั้นเอง ภายในค่ายนี้อ่ะนะ เราก็ได้แต่รู้จักกับ FILA ตลอดค่ายเลย จนทำงานอะไรก็เป็น FILA หมดเลยอ่ะ ว่ะฮะฮ่ะ555+ ฮาดีแท้ เรารู้ว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงยังทำโครงงานกันไม่เสร็จ ช่ายไหมหล่ะ หุหุหุหุ พอกะเราแหละ
เหอะๆๆๆๆ เดี่ยววันหลังเราจะมาบอกแล้วกันนะว่า FILA คืออารายยยยยยยย
55555555

สำหรับสิ่งที่ได้จากค่ายคณิตศาสตร์ที่จังหวัดนครนายกนะค่ะ ตอนแรกไปเหมือนเค้า (หมายถึงโรงเรียนอ่ะเหมือนจะไม่ยอบรับเราอ่ะ วันแรกเค้าเหมือนจะลืมเรียกชื่อโรงเรียนเราด้วยอ่ะ แต่โรงเรียนเราอ่ะนะ ก้อชนะกล่องดำด้วยแหละ ดีจายจัง แล้วโรงเรียนอื่นเค้าก็ไม่ค่อยจะลืมเรียกชื่อเราแล้วอ่ะ แล้วเราก็ยังได้เพื่อนใหม่จากค่ายนี้มากมาย เค้ามีการจัดแบ่งเป็นกลุ่มล่ะ เราอยู่กลุ่มแลมป์ดา 6อ่ะนะ จริงๆอ่ะมันก้อมีหลายกลุ่มอ่ะนะ
เบื่อแล้วอ่ะ ง่วงนอน พรุ่งนี้เรามาอัพต่อนะจ๊ะ

วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วัยรุ่น!!!!!มามามองโลกในแง่ดีดีกันดีกว่านะ

hi^@ เพื่อนนินทา เพื่อนนินทาเรา แสดงว่าเราต้องมีดีอะไรสักอย่าง จนเพื่อนมันอิจฉาอย่างนี้เราน่าจะภูมิใจตัวเองแทนที่จะไปโกรธเพื่อนคนนั้น พูดง่ายๆ เขาไม่มีจุดเด่นเหมือนเราเขาจึงนินทาว่างั้นเหอะ
@ ส่งยิ้มให้เธอแล้ว ไม่แยแส ยังดี..นะเนี่ย ที่เธอไม่ด่ากลับมา นี่แสดงว่าเธอยังมีน้ำใจดีอยู่บ้างโอ.. ซาบซึ้งเหลือเกิน ถึงเราจะแห้ว..แต่เราก็ยังประทับใจในความดีของหล่อน
@ โดนแม่ด่าแต่เช้าตรู่ แม่ด่าเรา แสดงว่าแม่ยังรักและห่วงใยเราอยู่ โห..ซาบซึ้งมากเลย อีกอย่างหนึ่งในคำด่าของแม่ต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ด่าซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ อย่างนี้หรอก
@ ครูสอนไม่รู้เรื่องเลย ท้าทายมาก ..ท้าทายมาก นี่หมายความว่าคุณครูกำลังท้าทายเรา ว่าถ้าข้าสอนห่วยๆ แบบนี้ เอ็งจะรู้เรื่องหรือเปล่า อย่างนี้ยอมไม่ได้..เราต้องขวนขวายเอาเอง เพื่อพิสูจน์กึ๋นให้คุณครูรู้ว่าเรานี้ก็ไม่เบาเหมือนกาน..น
@ เพื่อนหักหลัง ไม่เป็นไร..ขอกันกินมากกว่านี้ แต่น่าสงสารนายนะ เพราะนิสัยของนาย คงจะทำให้นายต้องเสียเพื่อนไปหมดทุกคนในไม่ช้า เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะไว้ใจคนที่หักหลังเพื่อน.
@ เพื่อนล้อว่าเสี่ยว โห..! ตัวเรานี่มีอะไรดีๆ เยอะแยะ แต่พวกนายกลับมองไม่เห็นคุณค่าสงสัยว่าการมองโลกของพวกนายคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ เสียใจด้วยนะ.ที่นายคงหมดโอกาสจะได้คบกับคนดี ๆ อย่างเรา
@ เช็คเมล์เจอแต่จดหมายขยะชวนดูรูปโป๊ ทดสอบ ๆ ทดสอบพลังจิต ถ้าเราลบเมล์พวกนี้ทิ้ง แสดงว่าจิตใจของเราเข้มแข็ง ถ้าเปิดดู ก็อ่อนแอ (เผลอ ๆ โดนหลอกให้เปิดไวรัสอีกต่างหาก อิอิ)
@ วันหยุดการบ้านเพียบ สบายมาก..คุณครูกำลังท้าทายความสามารถของเรา(อีกแล้ว) เรารู้ทันหรอกน่า การบ้านเยอะอย่างนี้เราก็ว่าดีนะ เพราะได้ฝึก ตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนัก ถ้าเราสู้ไม่ถอยในวันนี้ อนาคตไปโลด
@ อกหักอีกแล้ว ไม่เป็นไร ได้เรียนรู้ชีวิต นี่ป็นการพิสูจน์สัจจธรรมอีกครั้งว่า รักแท้คือแม่เรา ว่าแต่ตัวเราเอง คอยปรับปรุงตัวเองให้ดีๆ เหอะ ชีวิตดีขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาชอบเราเองแหละ
@ รถติดหงุดหงิดๆ นั่งสมาธิมันเสียเลย จิตใจสว่างไสว เรียนหนังสือจะได้จำแม่น ง่ายจะตาย หลับตาหายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1 2 3 4 5 ดูลมหายใจเข้าออกเพลิน ๆ ไม่ต้องไปรอคอยอะไร
@ โห..ใช้เงินเพลินหมดเรียบเลย " เงินหมด ก็อดอย่างเสือ" ดีสิ..จะได้ฝึกนิสัยอดทนสักระยะ ยังมีคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ ทุกข์ของเรามันแค่เรื่องขี้ผง @ เพื่อนมีมือถือ แต่เราไม่มี โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มี มือถือเนี่ยตัวดูดเงินเลย วัยรุ่นบางคน เมาท์จนล้มละลาย อย่าเห่อไปตามกระแสหน่อยเลย ชีวิตนี้ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมือถือหรอกนะ
@ เราหน้าตี๋ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ ..อายจัง โด่..หล่อจะตาย สมัยก่อนนู้น เขาคลั่งไคล้มาก ขนาดที่เมืองจีน เวลาปั้นพระพุทธรูป เขายังปั้นให้หน้าอูม ๆ เลย จริงอยู่สมัยนี้เขานิยมคนหน้าตาแบบลูกครึ่งฝรั่ง แต่อีกหน่อยก็เลิกฮิต เชื่อเหอะ ไม่แน่นะ ในอนาคตแฟชั่นหน้าตี๋อาจจะกลับมานิยมอีกก็ด้าย...อ้อ ! อีกอย่างสมัยนี้ สาว ๆ ที่ฉลาด เขาชอบคนดีมากกว่าคนหล่อ นะจะบอกให้
@ ชอบเขา แต่เขาไม่ชอบเราง่ะ ธรรมดาเลย.. งใครง่าย ๆ มันก็ต้องกิน"แห้ว"ประจำ ที่จริงชีวิตของเรานั้นมีคุณค่ามากนะ จะปล่อยให้เรื่องเล็กๆ แค่นี้มาทำให้ชีวิตของเราไร้ค่าได้อย่างไร ทำตัวเองให้มีค่า ดีกว่า เดี๋ยวก็มีคนดี ๆ มาชอบเราเองหรอกน้า..า
@ เฮ้อ ! แฟนดูรูปโป๊ประจำ ดูเข้าไปเลย..เห็นพระท่านว่าพวกผู้ชายที่ชอบดูรูปโป๊มาก ๆ ชาติหน้าพวกนี้จะไปเกิดเป็นผู้หญิงกันหมด เพราะจิตใจฝักใฝ่แต่รูปร่างผู้หญิง ดีสม..! ชอบเอา เปรียบกันนักไปเกิดเป็นผู้หญิงเองเสียบ้าง จะได้รู้สึก (เขาเรียกว่าไป "ที่ชอบๆ" ฮิ ฮิ)
@ ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B เรียนแล้วได้วิชาความรู้ มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน การได้เกรด A ก็คล้ายๆ กับว่าเราได้โบนัส ทีนี้ถึงเราจะไม่ได้โบนัส มันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา
@ เข้าคิวซื้อตั๋วหนังอยู่ดีๆเพื่อนเล่นแซงคิวหน้าตาเฉย โถ.. ! น่าสงสาร ยอมเสียนิสัย เพื่อแลกกับตั๋วหนังเพียงใบเดียว
@ ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูทั้งวัน เสียงภายนอกดังสนั่น แต่เสียงภายในเงียบสนิท ถึงเสียงวิทยุจะดังปานใด แต่ใจฉันก็ไม่เคยหงุดหงิด ฉันยังคงทำงานของฉันไปอย่างมีความสุข
@ คนชอบมาแซวเราว่า"น้องดำ ดอทคอม" ผิวอย่างฉันเขาเรียกว่า "คมขำ" ย่ะ หนุ่มๆ ฝรั่งหลงใหลจะตายไป พวกนายคงโดนโฆษณาหลอกแล้วล่ะ"ฉันคือตัวฉัน" ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกหรอกนะ
@ เฮ้อ..! ไม่รู้จะทำอะไรดีเซ็ง..ง ระเบิด ! แอ็คทีฟเข้าไว้เพื่อน อย่าให้ความเซ็งเข้าครอบงำ ทำทุกอย่างด้วยความกระฉับกระเฉง หนึ่ง สอง..ๆๆๆ หาอะไรทำให้มันสนุก หนึ่ง สอง... ๆๆ
@ รู้สึกว่าตัวเองโง่โดนคนอื่นหลอกอยู่เรื่อย นึกว่าตัวเองโง่ ยังดีกว่านึกว่าตัวเองฉลาด พระท่านว่าคนฉลาดคือคนที่รู้ตัวเองว่าโง่นะ (แต่อย่าเผลอไปโดนเขาหลอกอีกล่ะ อิ อิ)
@ เพื่อนเห็นแก่ตัวกินไหนกินด้วยแต่ไม่เคยช่วยสักบาท เฮ้อ..นึกว่าช่วยชีวิตเพื่อนให้รอดไปได้สักมื้อก็แล้วกัน ได้บุญดีนะ (แหะๆ....แต่นาน ๆ เจอกันสักที ก็แล้วกัน)
@ กลุ้มใจจังไม่มีใครมาจีบ "กลุ้มใจ" ไม่มีคนมาจีบ มันยังดีกว่า "ช้ำใจ" ที่โดนคนมาหลอก ถ้าอยากจะพบรักแท้ มันก็ต้องอดทนไว้ก่อนนะเธอ
@ หน้าเป็นสิวไปไหนมาไหนอายเพื่อน วัยรุ่นมีสิวน่ารักจะตายไป เออถ้าคนแก่มีสิวสิ ค่อยน่าอายหน่อย พวกบริษัทขายยาแก้สิวทั้งหลายนี่แหละตัวดี ชอบโฆษณาทำร้ายจิตใจวัยรุ่นดีนัก ระวังตัวใว้ดีๆเหอะ ชาติหน้ากรรมสนอง ไปเกิดเป็น "ท้าวแสนปม" ไม่รู้ด้วย อิอิ
@ ทำตังค์ตกหาย 500 แง..! ไม่เป็นไร..คิดเสียว่าเสียค่าหน่วยกิต วิชา "ละเอียดรอบคอบระมัดระวัง" ก็แล้วกัน นี่ถ้าชีวิตเรามีความรอบคอบมากขึ้น เพราะเงิน หายในคราวนี้ ก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว
@ พ่อแม่ชอบเห็นเราเป็นเด็กตลอดชาติ ถึงใครจะมองเราว่าเป็นเด็ก แต่เราก็จะเคารพตัวเองว่าเรานั้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่คือคนที่ไม่ทำอะไรตามใจตนเอง แต่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรอบคอบ ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา (เอ...ชักยากแฮะ หรือว่าจะยอมเป็นเด็กเหมือนเดิมดีกว่าม้าง...ง )
@ อิจฉาเพื่อนแฟนมันสวยอะ มีแฟนสวยก็ยินดีด้วย แต่เราว่ามีแฟนนิสัยดีดูแลเอาใจใส่ดี แบบนี้สุดยอดกว่านะ
@ รักเธอแต่ว่าไม่กล้าเอ่ยปาก อย่างนี้ต้องซ้อมบอกรักกับคนอื่นให้เกิดความเคยชินเสียก่อน พ่อคับ ผมรักคุณพ่อมากคับ .. แม่คับ ผมรักคุณแม่มากคับ .. ตูบ ข้ารักเอ็งมากนะ .. เฮ้ย..เจ้าศักดิ์ เรารักนายจริงๆ ว่ะ .. ฯลฯ อิอิ.. ทีนี้พอพูดคล่องแล้วจึงค่อยไปบอกรักกะเธอ
@ ช่วยเพื่อนแทบตายแต่เพื่อนยังคิดร้ายกะเราอีก เฮ้อ..คิดว่าช่วยเสือตกน้ำให้รอดตายสักตัวก็แล้วกัน เสือเนี่ยนะ ถึงเราช่วยมัน แต่ถ้าเราเข้าใกล้มัน มันก็กัดเราอยู่ดี คงต้องปล่อยเข้าป่าไป เจ้าเพื่อนคนนี้ก็เหมือนกัน ฉันช่วยแกแค่เอาบุญ แต่คราวหน้าคงไม่ช่วยแล้วล่ะ ปรับปรุงตัวเองให้นิสัยดีกว่านี้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ @ พอแฟนเจอคนที่รวยกว่าเธอบอกเลิกกับผมทันที อย่างนี้เรียกว่า..โชคดีที่เลิกกัน จริงๆ นะ ..คนที่เห็นเงินทองสำคัญกว่าความรักอย่างเงี้ยะ ขืนได้แต่งงานด้วย รับรองว่าเจอปัญหาตลอดชีวิตแน่เราโชคดีแล้วล่ะ ที่แคล้วคลาดออกมาได้
@ เหงามากขอบอก มองรอบๆ ดู .. อะไรต่ออะไรล้วนแต่เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือเราทั้งน้าน.น โต๊ะก็เพื่อนเรา เก้าอื้ก็เพื่อนเรา หน้าต่างก็เพื่อนเรา หนังสือก็เพื่อนเรา แก้วน้ำก็เพื่อนเรา ฯลฯ...(สามชั่วโมงผ่านไป) .....ฯลฯ หมาก็เพื่อนเรา ต้นหญ้าก็เพื่อนเรา ท่อระบายน้ำก็เพื่อนเรา ตู้ไปรษณีย์ก็เพื่อนเรา... ฯลฯ .... (ต่อไปอีกห้าชั่วโมง)..... ฯลฯ
@ เพื่อนกวนยียวนมากอยากชกสักที โด่..คนกวนๆ แบบนี้ไปที่ไหนก็มีคนอยากชกกันทั้งนั้น เราจะต้องไปชกเองทำไมให้เจ็บมือ เดี๋ยวก็มีคนอื่นชกให้เองแหละ แต่ดูๆแล้วก็น่าสงสารนะ...โถ..! เกิดมาชาตินี้มีแต่คนอยากชก
@ อยากตัดใจจากคนรักค่ะทรมานใจมากอยากทำใจให้ไวสุดๆ ทุกครั้งที่นึกถึงเขาให้ทำอย่างนี้ดิ " หายใจเข้าลึกๆ นึกถึงเขา(คนนั้น) หายใจออกยาว ๆ สลายภาพของเขาใหัหายไป " แล้วก็พูดในใจว่า "โอ้..! ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ไม่ใช่ของเรา มันเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย " (จับฝึกกรรมฐานเสียเลย อิอิ )
@ พ่อบังคับผมจะให้สอบเอ็นฯติดให้ได้..เครียดมาก โอเคครับ...ผมจะพยายามเพื่อพ่อ แต่ผมขอเวลาทำอะไรเพื่อตัวผมเองบ้างนะครับ อ้อ..! ถ้าเอ็นฯไม่ติด ก้อไม่ว่ากันนะครับ เพราะสุดฝีมือแล้ว แต่พ่อไม่ต้องห่วงอนาคตของผมหรอกครับ เพราะถึงผมจะเอ็นฯไม่ติด ผมได้เตรียมหนทางของผมไว้แล้ว รับรองไปได้สวยอย่างแน่นอนครับ
@ นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ฮ้าว..ว (หาว) แล้วส่งกระแสจิตไปยังสัตว์โลกแบบนี้ดิ หนึ่ง.. ฉันรักแมว สอง..ฉันรักหมา สาม..ฉันรักยีราฟ สี่...ฉันรักหนอน ห้า...ฉันรักสิงโต หก...ฉันรักนก เจ็ด.. ฉันรักเม่น.... ฯลฯ ( ส่งความรักไปถึงสัตว์โลกอย่างนี้เรื่อยๆ สักร้อยตัว รับรองประเดี๋ยวก็..คร้อกก..ก)
@ เพื่อนรักต่อหน้าทำดีกับเราแต่ลับหลังเผาเราเซียะไม่มีดี ไม่เป็นไร..เราให้อภัย เพราะนายเคยทำดีกะเราไว้เยอะ เอาเป็นว่าถ้านายเลิกนิสัยนี้ได้เมื่อไหร่ เราทั้งสองคน ค่อยมาคบกันใหม่นะ ...สวัสดี ( โห..! เลิกคบเลย )
@ ท้อใจอยากโดดตึก ขืนโดดก็โง่ดิ .. โด่....ชีวิตนี้มันก็แค่แบบฝึกหัดเล่มใหญ่ ปัญหาผ่านมาเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันมาแวะทักทายเราให้ลองแก้ไขดูเท่านั้นเอง แก้ปัญหาไม่ได้ ก็เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอทางออก ยอมแพ้ได้ไง
@ เพื่อนชอบพูดข่มเราประจำ คนมีปมด้อยมาก ๆ ก็อย่างนี้แหละ ชอบข่มคนอื่นให้ด้อย เพื่อตัวเองจะได้เด่น เราไม่ถือสานายหรอก เอาไว้นายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น นายก็จะรู้เอง
@ เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆรู้สึกประหม่า ๆไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนเอง เวลายืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ให้คิดอย่างนี้ดิ " ฉันคือราชสีห์ผู้สง่างาม ยืนอยู่ท่ามกลาง หมู่สัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ( ก็เพื่อน ๆ ไง ) นั่น ยีราฟ (คนสูง ๆ ) โน่น ฮิปโป้ (อิ อิ) นู่น เม่น (คนผมแข็ง ๆ) ฯลฯ " ..เดี๋ยวก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเองแหละ
@ เกิดมาจนโธ่ ! คนอย่างเรา เกิดมาจน ก็ได้เปรียบน่ะสิ เพราะได้มีโอกาสสร้างเนื้อสร้างตัว ด้วยลำแข้งของตัวเองจริง ๆ ชีวิตจะแข็งแกร่งกว่าคนที่เกิดมาสบาย ๆ ตั้งแต่เด็ก แหม..ได้เปรียบแล้ว ยังมาทำบ่นอีก
@ เพื่อนจะขายตัวบอกว่าไม่เห็นจะหนักหัวใครเลย ช่าย..ย ..เราก้อเห็นด้วยกับเธอนะ นั่นไง เจ้า HIV ยังพยักหน้าเห็นด้วยเลย
@ เรา"นมเล็ก"อยากใหญ่กว่านี้ทำไงดีอะ เล็กๆ กระทัดรัด น่ารักนะจะบอกให้ แล้วอีกอย่าง ธรรมชาติของผู้ชายเนี่ย เขาต้องการความอบอุ่น จาก "การดูแลเอาใจใส่" ต่างหาก ไม่ใช่จาก "หน้าอกใหญ่ ๆ "
@ เรียนหนังสือยังไงให้เป็นเลิศและไม่ให้เครียดครับ คิดอย่างนี้ทุกวัน รับรองเป็นเลิศ"ฉันจะตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง ฉันจะขยันอย่างไม่หยุดหย่อน ฉันจะค้นคว้าด้วยความอยากรู้จริง ๆ และ...ฉันจะไม่แข่งขันกับใคร นอกจากแข่งขันกับตัวเอง "
@ ไม่รู้เป็นอะไรอยากได้โน่นได้นี่ตลอดเวลาแต่ไม่มีเงิน แหะๆ "อยากได้โน่นอยากได้นี่" มีแต่เสียเงินลูกเดียว " อยากทำโน่นอยากทำนี่ " ดีกว่า สนุกดี แฮปตลอดวัน แถมไม่ต้องเสียเงินสักบาท
@ แง ... เพื่อนไม่สนใจเราเลยทำดีเอาใจทุกอย่างแล้วนะ ทำดีเพื่อให้คนอื่นมาสนใจมันก็เหื่ยวแห้งอย่างนี้แหละเธอ เป็นแม่พระดีกว่านะ... ดูแลเพื่อน ๆ เหมือนอย่างกับแม่ที่ดูแลลูก ให้ความอบอุ่นอย่างทั่วถึง แล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ....เฮ้อ ! เห็นคนอื่นมีความสุข แล้วก้อสบายใจ
@ ถ้าหนูจะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำเช่น ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน(อ้าว ! ) ทำยังไงไม่ให้ขี้เกียจ ให้คิดดูว่า เราจะได้อะไรจากงานที่ทำนี้บ้าง คิดไปเรื่อย ๆ จนเกิดความรู้สึก "อยากทำ" เช่น "ล้างส้วม" เราได้อะไรบ้าง โห !เยอะแยะ 1."ได้ออกกำลัง" ดีจังเรายิ่งอ้วน ๆ อยู่ด้วย2."ได้เสียสละ" เพื่อพ่อแม่จะได้เข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข 3. "ได้ฝึกอดทน" โตขึ้นเราจะได้แข็งแกร่ง ลุยได้ทุกที่ 4. "ได้บุญ" ใครเห็นห้องน้ำสะอาด เขาก็จะสบายใจ เราก้ออิ่มบุญ ฯลฯ ..(คิดไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก้อทนไม่ไหว อยากจะไปทำเองแหละ)
@ ช่วยตัวเองบ่อยมากทำไงให้ลดลง เบรคตัวเองแรง ๆ ดิ เช่น .. " ไม่คุ้มเลย.. สุขวูบเดียว เพลียไปทั้งวัน...มันก็แค่อร่อยเหมือนแทะเนื้อติดกระดูก แทะยังไงก็ไม่อิ่ม ... ไม่มีปัญญาคิดสร้างสรรค์ความสุขอื่น ๆ แล้วหรือไง ถึงได้จมอยู่แต่เรื่องพวกนี้... เราวุ่นกับมัน มันก็วุ่นกับเรา ไม่เป็นอิสระสักที " ฯลฯ(ถ้าคิดแล้วยังเอาไว้ไม่อยู่ ก็ตามบายเหอะ มันไม่เสียหายอะไรนักหรอก)
@ คืนนี้ อยู่คนเดียวกลัวผีอะบรื๋วว..ว์ นี่พวกผี ตอนนี้ฉันกำลังสวดนะโม ตัสสะ ฯ อยู่นะ เตือนไว้ก่อนว่าพระพุทธเจ้าท่านกำลังประทับอยู่ในใจฉัน ผีตัวไหนอย่าอุตริโผล่ขึ้นมาหลอกล่ะ บาปกรรมหัวแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงไม่รู้ด้วยนะเออ
@ คนตามจองล้างจองผลาญกลั่นแกล้งเราไม่ยอมเลิก " เจ้ากรรมนายเวร" ภาค 2 ชัวร์ !! อย่างนี้ยิ่งตอบโต้ยิ่งเกมยาว (ถึงชาติหน้า) เจ๊ากันไปดีกว่า เอาเป็นว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เรื่อยๆ ศัตรูได้ส่วนบุญเยอะ ๆ เดี๋ยวก็เลิกรากันไปเองแหละ
@ กระเป๋ารถเมล์สายที่นั่งประจำพูดจาไม่สุภาพฟังแล้วไม่สบอารมณ์เลย น่าเห็นใจนะอาชีพนี้ นี่ถ้าฉันลองไปทำดูบ้าง ฉันก็คงจะเครียด และต้องแสดงอาการกริยาแบบนี้แหละ
@ ทำตัวดีไม่เป็นภัยกับใครแต่กลับถูกใส่ร้ายป้ายสี ภูผาหินไม่กลัวพายุร้าย เราบริสุทธิ์ใจเสียอย่าง จะไปหวั่นไหวอะไรกะอีแค่ลมปาก เขาพูดป้ายสี สีก็เลอะที่ปากเขาสิ เราไม่เกี่ยว..
@ ผมเป็นคนจับจดทำงานอะไรไม่เคยสำเร็จชาตินี้จะเอาดีกะเขาได้มั้ยเนี่ย นึกถึงภาระกิจที่จะต้องทำแล้วคิดด้วยความมั่นใจว่า " เข้ามาเล้ย..ย งานน่ะ ไม่กลัวอยู่แล้ว (ทุบกำปั้นบนฝ่ามือ) เรามั่นใจ ทำได้แน่ไม่เลี่ยง ไม่หนี ลุยลูกเดียว " (คิดทั้งวันทั้งคืน ชาตินี้จะไม่มีวันเป็นคนจับจด)
@ นิสัยตัวเองไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น " มิน่าเล่า เราถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน จับผิดตัวเองดีกว่า สนุกกว่ากันเยอะเลย "
@ ติดเกมงอมแงมเสียการเสียงานอยากเลิก แต่เลิกไม่
ได้ พูดท้าทายตัวเองดิ เช่น" เล่นเกมสนุก แต่ไม่มีสาระ เสียเวลาไปเปล่าๆ ไหนเก่งจริง ลองทำงานให้สนุกเหมือนเกมดูซิโด่...ทำได้หรือเปล่า มีปัญญาอ๊ะป่าว " @ ทำสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างมา(ทำอะไรไม่บอกอะ) รู้สึกกังวลและเครียดมากหายใจไม่ทั่วท้องเลย หายใจเข้าออกลึก ๆ ให้สุดปอดตลอดทั้งวัน และบอกกับตัวเองว่า "ถ้ามันไม่ร้ายแรงถึงกับตาย เราก็ไม่ต้องไปกลัวไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรารับได้อยู่แล้ว เราแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้ สบายมาก "
@ ถูกขาใหญ่ตบกระโหลกที่หน้าปากซอยฮึ่ม..แค้นมาก เดี๋ยวจะลากปืนไปยิงมัน โห..! คิดได้ไงเนี่ยจะเอาเพชรไปแลกกะถ่าน คุ้มจริงๆ นะเพ่
@ ทำไมโรงเรียนต้องบังคับนักเรียนชายให้ตัดผมด้วยหมดหล่อเลยเรา เผด็จการชัด ๆ ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะสาว ๆ จะได้ไม่กวน ขอบคุณคับคุณครู ที่ช่วยให้ผมได้เรียนหนังสือเต็มที่กับเขาสักที
@ ไม่สบอารมณ์คนนั่งข้าง ๆ (ใครหว่า ?)ขอคาถาขับไล่หน่อยสิ ได้สิ.. " โอมเพี้ยง.. ชิ๊ว ๆ ๆ ไปพวกความคิดที่ไม่ดีทั้งหลาย หายวับกับตาไปให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะได้ใจเย็นๆ สักที "
@ ฮือ..ๆๆเราติดเอดส์เรากลัวตาย..ฮือๆๆ เข้มแข็งๆ กล้าหาญไว้ โอ.!.ฉันขอบคุณโรคเอดส์ เพราะมันทำให้ฉันไม่ประมาทในชีวิตอีกต่อไป ฉันจะรักษาสุขภาพกายใจให้ดีๆ อายุจะได้ยืนยาวไปอย่างน้อยอีกสิบปี (ไม่แน่นะ ถึงตอนนั้นอาจจะมียารักษาให้หายแล้วก็ได้ ) ฉันจะทำความดีให้มากๆๆๆ จวบจนวินาทีสุดท้ายเพราะพระท่านว่าคนที่ทำความดีไม่ต้องกลัวโลกหน้า ตายไปเมื่อไหร่จะสุขเหลือล้นจนคนข้างหลังอิจฉาเลยทีเดียวเชียว
@ เจอพวกชอบโทร(สาธารณะ)นานแทบจะกางมุ้งนอนรอ ถ้าไม่กล้าเคาะเตือน ขณะที่เรายืนรอ ลองฝึกสังเกต คนพวกนี้เล่นๆ ก็ได้ สนุกดีนะ เช่น"อึมม์..เจ้าหมอนี่ นุ่งกางเกงยีนส์ปะๆแต่ว่าซักสะอาด แสดงว่าชอบโชว์ความเก๋า แต่.. เล็บมือด๊ำดำ ว๊า ! หมดท่าเลย สังเกตดูเสื้อ สก๊อตสีน้ำเงินซะด้วย แต่ดูดีๆ ตะเข็บเย็บไม่ประณีต สงสัยจะเป็นเสื้อโหล ชอบยืนพิงตู้โทรคุยแบบนี้ น่าจะเป็นคนขี้เกียจนะ นั่น ๆ มีสมุดเรียนเหน็บที่กระเป๋าหลัง อ๋อ ! เรียนอยู่สถาบันนี้เอง แหวะ .. ทีหลังมีเราลูก เราไม่ส่งเรียนที่นี่หรอก นิสัยไม่ดี ฯลฯ " (บางคนกว่าจะออกจากตู้ สงสัยสังเกตจนเขียนตำราได้หนึ่งเล่ม หุ หุ ) "
@ เป็นคนขึ้อายมากกกกค่าเวลาคุยกะใครม้วนไปม้วนมา จะคุยกับหนุ่มใช่มั๊ยล่า..า รู้ทันหรอกน่า ให้คิดว่าเขาเป็นลูกชายคนโตของเราดิ แม่รู้สึกยังไงกะลูกล่ะ เอ็นดูใช่มั๊ย สงสารใช่มั๊ย ให้มีเมตตากรุณาต่อผู้ชายทุกคนที่คุยด้วย แต่ไม่หวั่นไหวกะใครง่าย ๆ ความอายจะหายไป ............ทำได้ป่าว
@ มีคนใส่ร้ายเราเราโกรธมากจนนอนไม่หลับ เขาทำความชั่วเขาก็ได้ผลชั่วของเขาเอง เรามามัวนอนโกรธ จนนอนไม่หลับ อย่างนี้ก็สมใจเขาสิ เปลี่ยนไม่ถือสาหาความ เมตตาเอ็นดูเขาดีกว่านอนหลับสบาย แถมฝันดีอีกต่างหาก
@ มีแฟนหลายคนสับหลีกไม่ทันอะ มีแฟนเยอะ แสดงว่าเรายังไม่เจอรักแท้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะลองแกล้งป่วยดู ถ้าคนไหนมาเยี่ยม แสดงว่าคนนั้นก็ผ่านรอบคัดเลือก เราจะทดสอบกลั่นกรองให้เหลือคนที่ดีที่สุด เพราะรักเดียวใจเดียวคือความสุขที่แท้จริง
@ ครูสอนน่าเบื่อโดดเรียนดีกว่าเรา โดดเรียน ได้ผ่อนคลาย มีเสรี จะไปไหนก็ได้ อึมม์...มันก้อดีเหมือนกันนะ แต่ทว่า...มันเป็นการหนีปัญหา เพราะอีกหน่อยเราก็คงต้องหนีเรื่อยไป หนีหน้าคน -หนีการงาน -หนีความรับผิดชอบ ขืนเป็นอย่างนี้ อนาคตของเราคงจะไปไม่รอดแน่ๆ สู้เลย..! จะไปกลัวอะไร ถ้าครูสอนน่าเบื่อ เราก็เรียนให้มันน่าสนุกสิ ง่ายจะตายไป เรื่องอะไรจะหนีเรียนให้เสียชื่อ เราสู้วันนี้ วันหน้าสบายมาก เย.."
@ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับทำไมผู้ใหญ่ชอบบังคับกันเรื่อย ถ้าไม่อยากให้รู้สึกว่ามีคนมาบังคับ ก็ต้องทำอะไรด้วยเหตุผลของตัวเอง เช่น :-
โรงเรียนบังคับให้ตัดผมเราก็คิดว่า "เราตัดผมไม่ใช่เพราะกลัวลงโทษ แต่เราตัดผมเพราะเราเคารพกฎของโรงเรียนต่างหาก"
แม่สั่งให้เก็บที่นอนทุกเช้า เราก็คิดว่า "ที่เราทำไม่ใช่เพราะกลัวแม่ด่า แต่เพราะเห็นว่ามันเป็นระเบียบเรียบร้อยดีต่างหาก" a
พ่อบังคับไม่ให้เราไปเที่ยวไหนในวันหยุด เราก็คิดว่า ที่เราไม่ไปไหน ไม่ใช่เพราะกลัวพ่อดุ แต่เพราะเราต้องการจะฝึกตัวเองให้เข้มแข็งต่างหาก" ฯลฯ
@ มีครูอยู่วิชาหนึ่งไม่ให้เกียรตินักเรียนชอบพูดสบประมาทเด็กอยู่เรื่อยเลย ทุกครั้งที่ได้ยินถ้อยคำดูหมิ่น ให้ยิ้มน้อยๆด้วยความเข้าใจและเห็นใจ(ผู้พูด) และ ให้คิดในใจว่า" พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญเราผู้ที่มีความหนักแน่น อดทนต่อถ้อยคำ ประกอบดัวย เมตตา และ ปัญญา ว่าเป็น ผู้ใหญ่ หาใช่ เด็ก ไม่ "

@ เป็นโรคใจง่ายเข้าใกล้คนหล่อ ๆทีไรหวั่นไหวทุกที เวลาเข้าใกล้คนหล่อ ให้นึกถึงอะไรที่น่าเกลี๊ยด น่าเกลียดภายในตัวของเขาสิ เช่น ขนจมูกของเขา ขี้หูของเขา ขี้ตา... .. รังแค.... อึ ..(แหวะ) คิดอย่างนี้ เดี๋ยวก็หายหวั่นไหวไปเอง ..ไม่เชื่อ ลองดูดิ
@ เพื่อนๆ ในห้องมีแฟนกันหมดแล้วมีเหลือแต่เรา "แหง่ว..ว" อยู่คนเดียว คิดมุมกลับ.. " เพื่อนๆ ในห้องหาเรื่องไปร้อนรนทุรนทุรายกันหมดแล้ว เหลือแต่เราอยู่เย็นเป็นสุขอยู่คนเดียว เย..! "
@ อยากเที่ยวกลางคืนให้มันสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย สุดเหวี่ยงจนลงเหวน่ะสิไม่ว่า เที่ยวกลางคืนเนี่ยปากทาง แห่งความเสื่อมเลยนะตัวเอง
@ ข้างบ้านชอบแต่งตัวโป๊ขอคาถาข่มใจหน่อยดิ โอม ! ... ธรรมดาๆๆ ๆไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นอะไร เหม็นขี้เหงื่อ เหม็นขี้ไคล ใคร ๆ ที่ไหน ก็เหมือนกัน (ท่องไปจ้องไปนะ )
ที่มา............http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1081450 ขอบคุณมากนะค่ะ